‘ทรัมป์’ เคาะอัตราภาษีนำเข้า ‘เกาหลีใต้’ และ ‘อินเดีย’ ที่ 15% และ 25% ตามลำดับ พร้อมลงนามขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงทั่วโลกเป็น 50% เทียบเท่าเหล็ก และอะลูมิเนียม
ปิดดีลเกาหลีใต้ ลดภาษีตอบโต้เหลือ 15%
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า สหรัฐอเมริกาได้ตกลงทำข้อตกลงการค้าอย่างเต็มรูปแบบกับสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15% นับว่าลดลงจากอัตราที่ 25% ที่ทรัมป์เคยประกาศไปก่อนหน้านี้
โดยทรัมป์กล่าวว่า เกาหลีใต้จะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการต่างๆ ที่ทรัมป์เลือก รวมถึงจะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวและผลิตภัณฑ์พลังงานอื่นๆ มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กระนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงการลงทุนจะมีโครงสร้างอย่างไรหรืออยู่ในกรอบเวลาใด โดยทรัมป์กล่าวว่าการลงทุนเพิ่มเติมจะมีการประกาศในภายหลัง
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เกาหลีใต้จะเปิดตลาดรับสินค้าของสหรัฐฯ ‘อย่างเต็มที่’ (Completely) ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถบรรทุก และสินค้าเกษตรกรรม และจะไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าเหล่านี้ด้วย
เก็บอินเดีย 25% พร้อมขู่จัดหนักเพิ่ม หากไม่เลิกซื้อพลังงานจากรัสเซีย
ส่วนประเทศอินเดีย ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% โดยเริ่มในวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคมนี้ พร้อมข่มขู่อินเดียถึงบทลงโทษเพิ่มเติม หากยังซื้อพลังงานจากรัสเซียต่อไป
ทรัมป์ให้เหตุผลว่าอินเดียมีอัตราภาษีนำเข้าสูงติดอันดับต้นๆ ของโลก และมีกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) ที่ยุ่งยากและน่ารังเกียจที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
นับเป็นการกดดันครั้งสุดท้าย ก่อนที่เส้นตายภาษีชุดใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
แม้อินเดียจะเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศกลุ่มแรกที่เริ่มเจรจากับทางสหรัฐฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่สามารถคว้าดีลที่ได้เปรียบกว่าบรรดาชาติเอเชียอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอัตราภาษีระหว่าง 15-20%
ก่อนหน้านี้อินเดียและสหรัฐฯ ตกลงกรอบเจรจาการค้าแบบทวิภาคีไว้แล้ว ภายหลังการพบกันระหว่างรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ (JD Vance) และนายกฯ นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ที่กรุงนิวเดลีเมื่อเดือนเมษายน โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าจะสรุปข้อตกลงภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้
กระทรวงการค้าของอินเดียออกแถลงการณ์หลังการประกาศของทรัมป์ โดยยืนยันว่า อินเดียยังยึดมั่นในข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่ “ยุติธรรม สมดุล และเป็นประโยชน์ร่วมกัน” พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ และธุรกิจรายย่อย โดยรัฐบาลจะดำเนินการทุกทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เช่นเดียวกับที่ทำในข้อตกลงการค้าเสรีกับสหราชอาณาจักรที่เพิ่งลงนามไปก่อนหน้านี้
ทรัมป์ลงนาม เก็บภาษีทองแดงทั่วโลก 50%
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งเมื่อวันพุธ เพื่อเก็บภาษีนำเข้าทองแดงจากทั่วโลกในอัตราสูงถึง 50% นับเป็นโลหะอีกชนิดหนึ่งที่ถูกสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีสูงต่อเนื่อง หลังจากที่เหล็กและอะลูมิเนียมถูกเก็บภาษีในระดับเดียวกันไปก่อนหน้านี้
ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ โดยระบุว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศและแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเตือนว่าการเก็บภาษีทองแดงในอัตราสูงจะส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้าง สายไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งล้วนใช้ทองแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ปัจจุบันทองแดงเป็นโลหะที่มีการบริโภคมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเหล็กและอะลูมิเนียม โดยสหรัฐฯ นำเข้าทองแดงเกือบครึ่งหนึ่งของการใช้ภายในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศชิลี ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (U.S. Geological Survey)
อ้างอิง: