ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรตุรกีที่เคยประกาศไปเมื่อ 9 วันที่แล้ว หลังตุรกียอมยุติการโจมตีนักรบชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นอดีตพันธมิตรของสหรัฐฯ ในสงครามปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) บริเวณชายแดนซีเรีย
ทรัมป์แถลงจากทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพิกถอนมาตรการคว่ำบาตรที่ใช้ลงโทษตุรกีจากกรณีส่งกำลังเข้าโจมตีชาวเคิร์ดในซีเรีย แต่ทรัมป์แย้มว่าเขาอาจเปลี่ยนใจ หากมีบางสิ่งเกิดขึ้นแล้วสหรัฐฯ ไม่พอใจ
“มีชีวิตนับไม่ถ้วนที่ปลอดภัยจากผลการเจรจาระหว่างเรากับตุรกี เราบรรลุผลลัพธ์โดยที่ไม่เสียเลือดชาวอเมริกันแม้แต่หยดเดียว ไม่มีใครบาดเจ็บ ไม่มีใครถูกยิง และไม่มีใครถูกสังหาร” ทรัมป์กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ เผยด้วยว่า เขาอาจพบกับประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกีในเร็วๆ นี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้น หลังตัดสินใจถอนทหารออกจากซีเรีย ซึ่งถูกมองว่าให้ไฟเขียวกับตุรกีในการเคลื่อนกำลังเข้าโจมตีที่มั่นของชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายในสายตาของรัฐบาลตุรกี การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกว่า นักรบ IS ที่ถูกกักขังในเรือนจำในความดูแลของชาวเคิร์ด จะหนีออกมาได้และปลุกชีพ IS อีกครั้ง
ด้านสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนยังคงไม่พอใจกับการตัดสินใจถอนทหารของทรัมป์ โดยรัฐสภายังอยู่ในระหว่างร่างกฎหมายคว่ำบาตรตุรกีฉบับใหม่ เพื่อลงโทษรัฐบาลของแอร์โดอันจากการโจมตีชาวเคิร์ด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: