ผู้สนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซีต่างแสดงความยินดีหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พฤศจิกายน) เนื่องจากเงินจำนวนมหาศาลที่พวกเขาลงทุนไปกำลังกลับมาให้ผลตอบแทนอีกครั้ง โดยมีผลมาจากการที่ทรัมป์มีท่าทีที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรม
ครั้งหนึ่งในอดีต ทรัมป์เคยเป็นผู้ไม่เชื่อในคริปโต แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาเปลี่ยนมุมมองมาสนับสนุนอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยให้คำมั่นว่าจะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจด้าน Bitcoin ของโลก ซึ่งในช่วงหาเสียงเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาเขายังให้คำมั่นว่าจะปลด แกรี เจนส์เลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง และสร้างคลังเงินทุนสำรองของรัฐบาลด้วย Bitcoin รวมทั้งจะทำให้ Bitcoin ในอนาคตทั้งหมดถูกขุดบนแผ่นดินสหรัฐฯ
Bitcoin พุ่งสู่ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All Time High) ในวันพุธ หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง รวมถึง Ethereum และ Uniswap ก็พุ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมคริปโตจากบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่ง เช่น บริษัท Coinbase Global หรือพี่น้องฝาแฝด Winklevoss และบริษัท Ripple Labs ทุ่มเงินมหาศาลอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าผู้สมัครที่สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้จะได้รับตำแหน่งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ ผู้ก่อตั้งร่วมเว็บเทรดคริปโต Gemini Trust Co. รวมถึง นายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ ไปจนถึง เบรน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Coinbase แสดงความยินดีต่อผลการเลือกตั้งในครั้งนี้
ติโม เลเฮส ผู้ก่อตั้งร่วม Swarm Markets แสดงความเห็นว่า “ทรัมป์เป็นฝ่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตมากกว่าแฮร์ริส ซึ่งหากเราพิจารณาจาก 4 ปีที่ผ่านมาโดยคณะทำงานของไบเดน เราก็จะบอกได้ทุกอย่างว่าพรรคเดโมแครตปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมคริปโตอย่างไร”
แน่นอนว่าตลาดคริปโตเคยประสบกับภัยจากการล่มสลายของเว็บเทรด FTX และเหตุการณ์อื่นๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด นโยบายของทรัมป์ในครั้งนี้อาจยุติการกีดกันทางกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้ได้
อนาโตลี แครชิโลฟ ซีอีโอของ Nickel Digital กล่าวว่า ราคา Bitcoin ที่เคลื่อนไหวในชั่วข้ามคืน สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดต่อนโยบายด้านคริปโตภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นสัญญาณการสิ้นสุดการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ให้กับสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำระดับโลกในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้บรรยากาศในตลาดปัจจุบันเป็นไปในทิศทางบวก
อ้างอิง: