×

กองทุนสำรองบิทคอยน์ของทรัมป์ สร้างความผิดหวังต่อตลาดและกดดันคริปโต

10.03.2025
  • LOADING...
กองทุนสำรองบิทคอยน์

ความตึงเครียดในอุตสาหกรรมคริปโตกลับมาปะทุอีกครั้ง หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งจัดตั้งกองทุนสำรองบิทคอยน์ (BTC) เชิงยุทธศาสตร์ พร้อมเพิ่มปริมาณสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ

 

แม้ผู้บริหารในวงการคริปโตหลายรายออกมาแสดงความชื่นชมต่อมาตรการดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย แต่บิทคอยน์กลับร่วงลงถึง 5.1% โดยซื้อขายที่ระดับ 81,885 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ณ เวลา 05.00 น. ตามเวลาไทย

 

แรงกดดันต่อสินทรัพย์ดิจิทัลยังถูกซ้ำเติมจากการชะลอตัวของสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ โดยดัชนี Nasdaq 100 ดิ่งลงสู่ภาวะปรับฐาน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ มาตรการภาษี และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยหุ้น Coinbase Global Inc. ร่วงลงมากถึง 3.5% 

 

ขณะที่หุ้นของ Michael Saylor’s Strategy ดิ่งลงถึง 7.5% เหรียญคริปโตอีก 4 เหรียญที่ทรัมป์เคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ได้แก่ Ether (ETH), Ripple (XRP), Cardano (ADA) และ Solana (SOL) ต่างก็เผชิญแรงเทขายและปรับตัวลดลงตามแนวโน้มของบิทคอยน์

 

QCP Capital ระบุในรายงานว่า “แม้คำสั่งนี้จะไม่ใช่ตัวกระตุ้นเชิงบวกแบบสุดโต่งอย่างที่หลายคนหวังไว้ แต่ก็ยังส่งผลดีต่อโครงสร้างตลาดคริปโต” 

 

นอกจากนี้บริษัทยังกล่าวว่า “ความกังวลเกี่ยวกับการเทขาย BTC จากคดี Silk Road ที่อาจสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดได้หมดไปแล้ว และสหรัฐฯ ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการวางกลยุทธ์คริปโตระยะยาว”

 

ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยรวมยังคงแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีสัญญาณบางอย่างที่อาจบ่งชี้ถึงความอ่อนแอลง ซึ่งจะสร้างความท้าทายให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หากภาวะเงินเฟ้อยังคงสูง และมาตรการภาษีของรัฐบาล Trump เพิ่มแรงกดดันด้านราคา

 

กระทรวงแรงงานรายงานว่า การเติบโตของงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีการสร้างงานเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าระดับการเติบโตของการจ้างงานรายเดือนที่เจ้าหน้าที่ Fed Christopher Waller เคยกล่าวถึงในวันพฤหัสบดีว่าอาจอยู่ในระดับที่เขามองว่าเป็นการสร้างงานที่ดี (อยู่ที่ 80,000-100,000 ตำแหน่ง)

 

Waller และเจ้าหน้าที่ Fed คนอื่น ๆ กล่าวว่าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในปัจจุบันทำให้ธนาคารกลางสามารถคงอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนในช่วง 4.25-4.50% ได้ ขณะที่รอให้มีความคืบหน้าเพิ่มเติมในเรื่องของเงินเฟ้อ ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%

 

แต่รายงานการจ้างงานล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% และจำนวนผู้ที่ต้องทำงานแบบพาร์ตไทม์เพราะไม่สามารถหางานเต็มเวลาได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ดัชนีการว่างงานที่เรียกว่า U-6 ขึ้นไปอยู่ที่ 8% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2021

 

รายงานการจ้างงานในเดือนกุมภาพันธ์ยังแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวในสภาวะตลาดแรงงาน แม้ก่อนที่จะได้รับผลกระทบจากการลดจำนวนพนักงานภาครัฐและการจ้างงานของผู้รับเหมา ซึ่งอาจไม่เห็นผลกระทบเต็มที่จนกว่าจะถึงเดือนมีนาคมหรือเมษายน

 

หลังจากรายงานการจ้างงานนี้ เทรดเดอร์ที่ซื้อขายฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นได้ปรับการคาดการณ์ว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน แทนที่จะเป็นพฤษภาคมตามการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยยังคงมองว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2025 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ Fed คาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะมีการอัปเดตการคาดการณ์เส้นทางการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไป

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising