แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยืดระยะเวลาเก็บภาษีนำเข้าเม็กซิโกและแคนาดาออกไป 1 เดือน แต่อุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ ยังหวั่นหากมาตรการถูกบังคับใช้ ต้นทุนการผลิตจะพุ่งทันที! ชาวอเมริกันต้องซื้อรถแพงขึ้นหลายพันดอลลาร์
หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาไปกว่า 25% ต่อมาไม่นานก็ได้ประกาศระงับมาตรการนี้เป็นเวลา 1 เดือน ภายใต้ข้อตกลงกับนายกรัฐมนตรีของแคนาดาและเม็กซิโก
แต่หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ ทันที เพราะต้นทุนการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นตามกำแพงภาษี โดยคาดว่าจะทำให้ราคารถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 6,000 ดอลลาร์ หรือราว 203,793 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ปี 67 อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ‘สาหัส’ ยอดผลิตพลาดเป้า ยอดขายร่วง 26.18% จับตา Trump 2.0 – คลื่น EV จีนซัดทุ่มตลาดอีกระลอก
- ทรัมป์เผยแผนเก็บภาษี 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสหรัฐฯ
- จับตานโยบาย ‘ทรัมป์’ เดินหน้าตั้งกำแพงภาษีประเทศคู่ค้า ส่อพ่นพิษไทยทั้ง: ทางตรงและทางอ้อม ฉุดส่งออกโตติดลบ-กดภาคการผลิต
สอดคล้องกับที่บริษัท Benchmark วิเคราะห์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งธุรกิจที่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูงสุดจากผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้า เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐฯ ยังพึ่งพาการนำเข้ารถยนต์จากประเทศเม็กซิโกและแคนาดากว่า 22% และนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากทั้ง 2 ประเทศกว่า 40%
ทั้งนี้ ประเมินว่าราคารถยนต์เริ่มต้นเฉลี่ยสูงเกิน 54,500 ดอลลาร์ หรือราว 1,849,800 บาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 12% เมื่อเทียบกับปี 2024 แน่นอนว่าชาวอเมริกาที่ต้องการซื้อรถยนต์ต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม
ถึงวันนี้นักลงทุนและผู้บริโภคก็ยังไม่รู้อย่างแน่ชัดว่ามาตรการภาษีจะออกมาในรูปแบบไหนและจะถูกนำมาใช้จริงหรือไม่ แต่ถ้าหากขึ้นภาษีนำเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
Jim Farley ซีอีโอของ Ford Motor กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมาทรัมป์จะต้องการให้ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ภายในประเทศมากกว่านำเข้า ควบคู่กับเพิ่มนวัตกรรมเข้ามาเพื่อทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น แต่สิ่งที่เราเห็นตอนนี้คือมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าแคนาดาและเม็กซิโกกำลังสร้างปัญหาและความยุ่งยากให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก
หากย้อนมาดูข้อมูลในปี 2024 ที่ผ่านมา เม็กซิโกและแคนาดาได้ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วน มูลค่ารวมกันมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น
- เม็กซิโก ส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ มูลค่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่าอีก 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2024
- แคนาดา ส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่าเกือบ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์
มูลค่าการส่งออกทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจาก 2 ประเทศนี้อย่างมาก และหากบังคับใช้ภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและราคาขายรถยนต์อย่างรุนแรง
ภาพ: alexfan32 / Shutterstock
อ้างอิง: