ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฝากสารเชิญผู้นำอาเซียน 10 ประเทศ เดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำ ‘ครั้งพิเศษ’ ที่สหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 2020 หลังไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมซัมมิตอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่กรุงเทพมหานคร
โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ซึ่งเดินทางมาประชุมในนามตัวแทนทรัมป์ ภายใต้กรอบเจรจาอาเซียน-สหรัฐฯ อ่านสารจากทรัมป์ในที่ประชุมว่า “ผมอยากใช้โอกาสนี้เชื้อเชิญบรรดาผู้นำอาเซียนมาร่วมประชุมซัมมิตนัดพิเศษที่สหรัฐอเมริกา การพบกันในช่วงเวลาที่สะดวกกับทุกฝ่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020”
ทรัมป์ระบุในจดหมายด้วยว่า ซัมมิตในสหรัฐฯ “จะมอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับบรรดาผู้นำในการขยายความร่วมมือกับเราในประเด็นสำคัญต่างๆ”
การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ มีผู้นำ 7 ชาติอาเซียน ประกอบด้วยสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ และบรูไน ที่ไม่ได้เข้าประชุมกับโอไบรอัน ซึ่งถูกมองว่า เป็นการตอบโต้ฝ่ายสหรัฐฯ โดยการบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุม หลังจากที่ทรัมป์ไม่เดินทางมาด้วยตนเอง และส่งเพียงเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจมาร่วมประชุม
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในกรุงเทพฯ เปิดเผยกับ AFP ว่า “มันเป็นการไม่เหมาะสมที่อาเซียนจะส่งผู้นำประเทศไปร่วมประชุม ในขณะที่ตัวแทนของสหรัฐฯ อยู่ในฐานะที่ไม่เท่าเทียมกัน”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อีกคนระบุว่า “มันไม่ใช่การบอยคอต แต่เป็นเพราะผู้นำคนอื่นๆ มีหมายประชุมอื่นที่ต้องไปเข้าร่วม”
ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์มีนโยบายลดทอนความสำคัญของภูมิภาค หลังจากถอนตัวจากการเจรจาข้อตกลงการค้าเอเชียแปซิฟิก (TPP) นับตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ไม่นาน
อย่างไรก็ตาม วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งคนที่ทรัมป์ส่งมาร่วมประชุมครั้งนี้ ย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายในเอเชีย รวมถึงต้องการเดินหน้าเจรจาการค้าในภูมิภาคนี้ด้วย
ส่วนประเด็นที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับสินค้าส่งออกของไทย 573 รายการ รวมมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์นั้น รอสส์กล่าวว่า ยังพอมีเวลาที่สหรัฐฯ และไทยจะเจรจากันต่อในเรื่องนี้ ก่อนที่มาตรการเก็บภาษีสินค้าที่ถูกยกเลิก GSP จะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนปีหน้า
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: