สงครามการค้ายังไม่จบ เมื่อสหรัฐฯ เตรียมประกาศตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้ แม้ว่าสองประเทศเพิ่งประกาศสงบศึกในสมรภูมิการค้าไปเมื่อเดือนที่แล้วก็ตาม
แหล่งข่าวภายในรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้อนุมัติมาตรการด้านศุลกากรใหม่กับสินค้านำเข้าจีน หลังหารือร่วมกับสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ โรเบิร์ต ไลต์ทิเซอร์ ผู้แทนการค้าระดับสูงของสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่จีนและสหรัฐฯ ประกาศพักรบในสงครามการค้าชั่วคราวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากสองฝ่ายได้เจรจาข้อตกลงการค้าจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยจีนรับปากในตอนนั้นว่าจะนำเข้าสินค้าเกษตรและพลังงานจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เพื่อลดช่องว่างการขาดดุลการค้าระหว่างสองประเทศ
แต่ 10 วันให้หลัง สถานการณ์ได้พลิกผันอีกครั้ง เมื่อทำเนียบขาวประกาศเก็บภาษีอากรนำเข้าตามเดิม พร้อมทั้งสั่งจำกัดปริมาณการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ด้วย เนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่พอใจปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในสินค้าเทคโนโลยีของจีน
นอกจากนี้จีนแล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังไฟเขียวมาตรการตั้งกำแพงภาษีกับเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) ส่งผลให้สหรัฐฯ เผชิญศึกการค้ารอบด้านในเวลานี้
ด้านจีนประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเช่นกัน โดยครอบคลุมสินค้าในหมวดยานยนต์และเครื่องบิน ไปจนถึงสินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลือง
อ้างอิง: