และแล้ววินาทีแห่งประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกรอคอยก็มาถึง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ จับมือทักทายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ณ โรงแรมคาเปลลา ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นปฐมบทแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนับตั้งแต่เกาหลีถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศและสองขั้วอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคสงครามเย็นเมื่อกว่า 7 ทศวรรษก่อน
การพบกันครั้งแรกระหว่างทรัมป์พบคิมบนเกาะเซนโตซา เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.05 น.ตามเวลาไทย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและการเฝ้าจับตามองของสื่อมวลชนทั่วโลก ขณะที่การประชุมอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นการพูดคุยแบบตัวต่อตัว จากนั้นในเวลา 10.00 น. โดยประมาณ จะมีการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่สองฝ่ายแบบเต็มคณะ ก่อนที่ทรัมป์และคิมจะรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน
ก่อนหน้านี้สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คิมจองอึนและโดนัลด์ ทรัมป์ต่างเห็นพ้องที่จะสร้างความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยใหม่ โดยสื่อเกาหลีเหนือยังย้ำว่า ถึงแม้สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะเป็นปรปักษ์ต่อกันในอดีต แต่หากสหรัฐฯ ให้ความเคารพต่อระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือก็พร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีสู่ภาวะปกติ
สำหรับหัวข้อการประชุมในวันนี้ ผู้นำทั้งสองเตรียมแลกเปลี่ยนทัศนะและมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับการสถาปนาระบอบแห่งสันติภาพถาวรบนคาบสมุทรเกาหลีเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เคยสร้างความวิตกร่วมกัน
ดังนั้น ประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจึงเป็นวาระสำคัญของซัมมิตครั้งนี้ รวมถึงการทำข้อตกลงยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ขณะที่เกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ รับประกันความปลอดภัยของระบอบผู้นำและยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้คาดว่าสหรัฐฯ จะไม่หยิบยกประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือขึ้นมาพูดคุยในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางความสำเร็จของซัมมิตรอบนี้ โดยสหรัฐฯ อาจเก็บประเด็นนี้ไว้เจรจากับเกาหลีเหนือในโอกาสต่อๆ ไป
อย่างไรก็ดี แม้ว่าขั้นตอนการเตรียมงานประชุมจะดำเนินไปด้วยดี แต่ด้วยบุคลิกที่ยากเกินจะคาดเดาของทั้งทรัมป์และคิมจองอึน ทำให้ผลลัพธ์ของการเจรจาครั้งนี้อาจออกได้หลายหน้า ขณะที่ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าการพบกันเพียงแค่ 5 วินาทีแรก ก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าจะสามารถเข้ากันกับอีกฝ่ายได้หรือไม่ โดยหากผลลัพธ์ของซัมมิตครั้งนี้ออกมาน่าพอใจ ผู้นำสหรัฐฯ ก็อาจเชิญคิมจองอึนไปเยือนทำเนียบขาวต่อไป
คาดว่าการประชุมในวันนี้จะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยคิมจองอึนมีกำหนดเดินทางออกจากสิงคโปร์ในเวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ทรัมป์จะออกจากสิงคโปร์ในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น