โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศในระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายการ Sunday Morning Futures ทางสถานีโทรทัศน์ Fox News โดยยืนยันว่าเขาจะกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้ง และคาดว่าจะมากกว่า 60% หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีนี้
ท่าทีของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจกลายเป็นการยกระดับสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจให้กลับมาดุเดือดอีกรอบ โดยในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งช่วงปี 2018-2019 ก็มีการกำหนดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์
“เราต้องทำมัน ผมหมายถึง ดูสิ ตลาดหุ้นแทบพังเมื่อมีการประกาศว่าผมชนะการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐไอโอวาเป็นประวัติการณ์ แล้วพอผมชนะที่นิวแฮมป์เชียร์ ตลาดหุ้นก็ดิ่งลงอย่างบ้าคลั่ง” เขากล่าว โดยระบุถึงผลการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ทรัมป์แสดงความไม่สนใจต่อเสียงสะท้อนของนักลงทุนในตลาดหุ้นที่กังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจส่งผลปั่นป่วนเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่ได้คิดจะเริ่มสงครามการค้ากับจีนอีกครั้ง
“มันไม่ใช่สงครามการค้า ผมทำได้ดีกับจีนในทุกเรื่อง ผมอยากให้จีนเป็นไปด้วยดี และผมก็ชอบประธานาธิบดีสีมาก เขาเป็นเพื่อนที่ดีของผมตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่ง”
ไม่ใช่แค่จีน แต่เก็บภาษีสินค้าทั่วโลก 10%
CNBC รายงานว่า นอกจากจีนแล้ว ทรัมป์ยังประกาศจะกำหนดอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ
ขณะที่ นิกกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ และคู่แข่งเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของทรัมป์ในการท้าชิงตัวแทนผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน วิพากษ์วิจารณ์แนวนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวว่าจะกระทบต่อค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกัน
“สิ่งที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะทำคือเขาจะเพิ่มค่าใช้จ่ายของทุกครัวเรือนขึ้น 2,600 ดอลลาร์ต่อปี” เฮลีย์กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในรายการ Squawk Box ของ CNBC โดยอ้างอิงข้อมูลจากสหภาพผู้เสียภาษีแห่งชาติ
ภาพ: REUTERS / Ronda Churchill / File Photo
อ้างอิง: