ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตอบตกลงร่วมประชุมกับคิมจองอึน ผู้นำของเกาหลีเหนือ เป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าสำคัญในการลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้แสดงท่าทีพร้อมเจรจาในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับวอชิงตันให้เป็นปกติ
ซาราห์ แซนเดอร์ส เลขาธิการฝ่ายสื่อประจำทำเนียบขาว ระบุว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตอบรับคำเชิญจากคณะผู้แทนเกาหลีใต้และประธานาธิบดีมุนแจอิน เพื่อพบปะกับคิมจองอึนเป็นครั้งแรก ส่วนสถานที่และวันเวลาประชุมจะกำหนดในภายหลัง เรารอคอยวันที่ประเทศเกาหลีเหนือปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก่อนจะถึงวันนั้น มาตรการคว่ำบาตรและแรงกดดันต่างๆ ที่มีต่อเปียงยางจะยังคงมีอยู่ต่อไป”
สัญญาณบวกดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะผู้แทนทางการทูตของเกาหลีใต้ได้นำสาส์นจากผู้นำเกาหลีเหนือเข้าพบพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แม็กมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ จากนั้นก็ได้หารือต่อกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ทำเนียบขาวจะประกาศข่าวดี
ชุงอุยยอง ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คิมจองอึนได้ให้คำมั่นกับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่กรุงเปียงยางว่า เกาหลีเหนือพร้อมปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพราะอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะไม่จำเป็นอีกต่อไป หากเกาหลีเหนือได้รับการการันตีเรื่องความมั่นคง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังรับปากจะระงับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอีกด้วย
คิมจองอึนยังบอกด้วยว่า เขาเข้าใจดีว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเดินหน้าจัดการซ้อมรบร่วมตามกำหนดการเดิมต่อไปในปีนี้ แต่คิมก็ยังแสดงความกระตือรือร้นที่จะพบกับทรัมป์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ยังพิจารณาทุกทางเลือก และยังคงเน้นย้ำจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อระบอบเผด็จการของเกาหลีเหนือ จนกว่าสหรัฐฯ จะเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ว่าเกาหลีเหนือจะยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จริง
อ้างอิง: