รายงานจาก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษ เปิดเผยเมื่อเช้าวานนี้ (13 มกราคม) ว่า หากไม่มีการเลือกตั้งในปี 2024 ที่ทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี การดำเนินคดีต่อทรัมป์ในคดีพยายามยึดอำนาจหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2020 จะมีหลักฐานเพียงพอสำหรับการตัดสินว่ามีความผิดในศาล
สมิธระบุในรายงานว่า “แม้จะเป็นคดีที่มีน้ำหนักมากเพียงใด แต่กระทรวงยุติธรรมยังคงยึดมั่นว่า รัฐธรรมนูญห้ามการฟ้องร้องและดำเนินคดีประธานาธิบดี ซึ่งเป็นมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะเป็นกรณีร้ายแรงหรือมีหลักฐานแน่นหนา”
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากไม่มีการเลือกตั้งของทรัมป์และการกลับมาสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศในเร็วๆ นี้ การประเมินจากหลักฐานที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการตัดสินความผิดของทรัมป์ในศาลได้
ขณะที่รายงานฉบับนี้ ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 137 หน้า เป็นส่วนหนึ่งของรายงานสุดท้ายของสมิธที่ถูกส่งไปยังสภาคองเกรสเมื่อช่วงเที่ยงคืนวานนี้ โดยยังมีอีกส่วนที่เกี่ยวกับคดีการจัดการเอกสารลับของทรัมป์ที่ยังคงเป็นความลับ
โดยรายงานนี้ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรง ที่สมิธเน้นถึงความพยายามของทรัมป์ในการล้มล้างผลการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้ามในช่วงวุ่นวายระหว่างวันเลือกตั้งและวันที่ 6 มกราคม 2021 ซึ่งเป็นวันที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกโจมตีอาคารรัฐสภา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บกว่า 140 นาย
ในรายงานสมิธชี้ชัดว่า การโจมตีรัฐสภาเกิดขึ้นจากการยุยงของทรัมป์ โดยอ้างคำให้การของผู้ต้องหาหลายคนที่ระบุว่า พวกเขาทำเพื่อสนองต่อคำพูดและการกระทำของทรัมป์ นอกจากนี้รายงานยังมีรายละเอียดความรุนแรงที่ตำรวจเผชิญ เช่น การถูกทำร้ายอย่างหนักจนเกิดอาการคล้าย ‘ช็อก’ และความพยายามในการปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนที่อยู่ภายในอาคารรัฐสภา
สมิธเปิดเผยว่า ทีมสืบสวนสัมภาษณ์บุคคลกว่า 250 คน และเรียกพยานเข้าให้การต่อคณะลูกขุนใหญ่กว่า 55 คน โดยระบุว่า การทำงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาที่สืบสวนเหตุการณ์โจมตีรัฐสภา เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของข้อมูลการสืบสวนทั้งหมด
นอกจากนี้ รายงานยังอธิบายถึงอุปสรรคสำคัญที่ทีมสืบสวนต้องเผชิญ เช่น การฟ้องร้องเรื่องสิทธิพิเศษทางบริหารและภูมิคุ้มกันของประธานาธิบดี รวมถึงการคุกคามพยานผ่านโซเชียลมีเดีย สมิธระบุว่า คดีนี้มีความจำเป็นต่อการดำเนินการ เพราะเป็นความพยายามอย่างไม่เคยมีมาก่อนในการล้มล้างผลการเลือกตั้งที่ชอบธรรมเพื่อรักษาอำนาจของทรัมป์
ถึงแม้ว่ารายงานฉบับนี้จะสรุปการทำงานของสมิธในฐานะที่ปรึกษาพิเศษแล้ว แต่ก็สะท้อนถึงความท้าทายของกระบวนการยุติธรรมเมื่อต้องจัดการกับประธานาธิบดีผู้ทรงอิทธิพล และส่งสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยในอนาคต
ภาพ: Mike Segar / File Photo / Reuters
อ้างอิง: