ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดฟินเทคไทย เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ได้เข้ามาผลักดันการใช้อีเพย์เมนต์และการเติบโตของสังคมไร้เงินสดในวงกว้าง และหากดูปัจจัยการเจริญเติบโตแล้ว จะไม่พูดถึง TrueMoney Wallet แอปอีวอลเล็ตที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด คงเป็นไปไม่ได้
Cashless Society ไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างไร
ณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจของ TrueMoney เล่าให้ฟังว่า จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย การใช้จ่ายผ่าน E-Money หรือที่เราเรียกว่า E-Wallet ของประเทศไทยเติบโตขึ้นทุกปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลล่าสุดตั้งแต่มกราคมถึงกันยายนปีนี้ มูลค่าการเติมเงินและใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นถึงมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดย TrueMoney เชื่อว่าพฤติกรรมแบบ New Normal ณ ขณะนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ต่อจากนี้แนวโน้มและทิศทางการเติบโตของ E-Wallet จะยังคงอยู่และก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ประเทศไทยเข้าใกล้การเป็น Cashless Society มากขึ้นๆ ทุกปี
ส่วนถ้าดูเฉพาะตัวเลขของ TrueMoney Wallet โดยเทียบจากยอด TPV หรือยอดการใช้จ่ายรวมบนแอปของปีนี้กับปีก่อนหน้า ก็มีการเติบโตมากกว่า 80% และผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นจาก 17 ล้าน เป็นมากกว่า 23 ล้าน ในระยะเวลาแค่ 1 ปี ซึ่งแนวโน้มก็เชื่อว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไปนับจากนี้
ปัจจัยการเติบโตของ TrueMoney Wallet ไม่ใช่แค่เพราะตลาดโต
สถาพร คิ้วสุวรรณสุข ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบของ TrueMoney เผยว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ TrueMoney Wallet ประสบความสำเร็จและมีการเติบโตระดับ Hypergrowth ได้ทุกปีก็คือการเป็นองค์กรที่มีสปิริตการทำงานแบบ Never Give Up และยึดหลัก Customer First คือดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ถ้าต้องทำอะไรที่รู้ว่ายากแต่เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการและลูกค้าได้ประโยชน์ จะพยายามพัฒนาเทคโนโลยีและหาโซลูชันเพื่อทำให้ได้ ซึ่งเป็นการวัดผลความสำเร็จที่ตัวเลขผู้ใช้และความถี่ในการใช้ ไม่ใช่ที่รายได้ เป็นสิ่งที่สะท้อนจุดนี้ได้เป็นอย่างดี
ในด้านการแข่งขันของตลาดก็ต้องยอมรับว่าวงการฟินเทคมีการแข่งขันสูง ใครไปข้างหน้าได้เร็วกว่าได้เปรียบ ดังนั้นการทำโปรดักต์และฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาให้เร็วที่สุด และคงรักษาประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม ซึ่ง TrueMoney Wallet มีอยู่แล้ว จึงเป็นสิ่งที่ทีมให้ความสำคัญและก็มั่นใจ เพราะผ่านช่วงการเติบโตของจำนวนผู้ใช้แบบก้าวกระโดด รวมทั้งการทำ Scale ระบบ เพื่อรองรับ Traffic ที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณมาหลายรอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กรวุฒิ ปวิตรปก ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ของ TrueMoney เห็นด้วยและเสริมว่า แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทที่เปิดโอกาสให้ทุกคนกล้าเสนอไอเดียใหม่ๆ และทดลองลงมือทำ พร้อมปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นที่ดีและเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างเทรนด์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทำให้เกิด New Curve ในการเติบโต บางครั้งทีมใช้เวลากันแค่ 1-2 สัปดาห์ ในการทำแคมเปญหรือขึ้นฟีเจอร์ใหม่ๆ เรียกว่าพอมีไอเดียที่เห็นว่าเวิร์ก ก็เรียกทีมที่เกี่ยวข้องเพื่อพูดคุยและลงมือทำทันที หลักจากนั้นก็รีบนำเสียงตอบรับจากลูกค้ามาทำการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้น
โดยหากย้อนดูเทรนด์การเติบโตของ TrueMoney Wallet จะเห็นว่าเป็น Pattern คล้ายกันทุกปี คือช่วงต้นปีจะมีการคิดค้นนวัตกรรมหรือไอเดียแคมเปญใหม่ๆ ส่งผลให้กราฟดีดตัวขึ้น จนอัตราการเติบโตเริ่มคงที่หรือชะลอ ซึ่งมักเป็นช่วงที่ทีมรีบทำงานร่วมกันเพื่ออ่านเทรนด์ตลาดและฟีดแบ็กลูกค้าจนหาโซลูชันในการแก้ปัญหาหรือไอเดียใหม่ๆ ได้ ส่งผลให้มักเกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงครึ่งหลังของปี
นวัตกรรมการเงินเปลี่ยนชีวิตผู้คนและเปลี่ยนโลก
ณัฐวดีกล่าวว่า แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเงินและบริการทางการเงินใหม่ๆ บน TrueMoney Wallet ก็คือพันธกิจของ แอสเซนด์ มันนี่ ที่ต้องการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินได้ และยกระดับชีวิตของพวกเขา ลองคิดย้อนไปเมื่อ 8 ปีก่อน จะเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงการทำธุรกรรมการเงินได้ง่ายๆ แบบทุกวันนี้ แต่บริษัทฯ มองเห็นและอยากช่วยคนกลุ่มนี้ที่ยังไม่มีใครมองเห็นความต้องการของพวกเขา เช่น แม่ค้าพ่อค้าที่ไม่สามารถปลีกเวลาการทำงานไปธนาคารได้ คนไม่มีบัตรเครดิตแต่ก็อยากซื้อของออนไลน์ หรือคนอาชีพอิสระที่อยากกู้เงินมาแก้ปัญหาเงินขาดมือเฉพาะหน้าแต่ก็ติดปัญหาไม่มีเอกสารรายได้ การมี Passion ที่อยากจะสร้างนวัตกรรมทางการเงินเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้ คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ TrueMoney Wallet เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา จนทุกวันนี้ไปไกลมากกว่าแค่การจ่ายเงินหรือโอนเงิน เพราะผู้ใช้สามารถกู้เงิน ฝากเงิน ซื้อประกัน และลงทุนผ่าน TrueMoney Wallet ได้แล้ว
นอกจากนี้ ความโดดเด่นของบริการทางการเงินบน TrueMoney Wallet คือสามารถเข้าถึงง่าย ใช้ง่าย และช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ยกตัวอย่างการเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนที่ช่วยให้มือใหม่สามารถเรียนรู้และเข้าถึงนับพันกองทุนได้ไม่จำกัดค่าย มีเงินไม่เยอะก็เริ่มลงทุนได้ หรือการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเก็บเงินที่ยังไม่เติมเข้าวอลเล็ตให้ได้ดอกเบี้ยก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านแอป ซึ่งณัฐวดีเผยว่า หากไปดูตัวเลขผู้ใช้งาน เช่น บริการลงทุนในกองทุนรวม มากกว่า 70% ของคนที่มาเปิดบัญชีไม่เคยลงทุนมาก่อน และ 70% ก็เป็นคนต่างจังหวัด ตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่านวัตกรรมการเงินของ TrueMoney Wallet ได้เปิดโอกาสให้คนสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินมากขึ้น
ซึ่งถ้าถามถึงนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ ต่อจากนี้ ณัฐวดีเล่าว่า TrueMoney Wallet เพิ่งเปิดตัวบริการจ่ายเพื่อจองซื้อหุ้น PO ของ MAKRO ไปเมื่อต้นเดือน ในปีหน้าที่จะถึงนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเปิดโอกาสในการชำระเงินเพื่อลงทุนในหุ้นอื่นๆ รวมทั้งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ต้องรอติดตาม