‘ทริสเรทติ้ง’ ประกาศเตรียมคัดบริษัทที่เข้ามาขอรับบริการจัดเรตติ้ง ‘เข้มงวดขึ้น’ โดยเฉพาะบริษัทที่เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์โดยอ้อม (Backdoor Listing) หลังได้บทเรียนกรณี STARK
วันนี้ (20 กรกฎาคม) ศักดิ์ดา พงศ์เจริญยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำในไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ว่า ประเด็นปัญหาของ STARK มาจากการตกแต่งบัญชี และมีลักษณะเป็นการโกงและหลอกลวง (Fraud) ซึ่งปัญหาแบบนี้เป็นกรณีเกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมทั้งระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะหาวิธีป้องกันปัญหาดังกล่าว
โดยในส่วนของทริสเรตติ้งเองก็จะเพิ่มความเข้มข้นและความระมัดระวังมากขึ้นในการรับองค์กรเข้ามาจัดอันดับเครดิต พร้อมเตรียมเพ่งเล็งบริษัทที่เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์โดยอ้อม (Backdoor Listing) เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ศักดิ์ดาย้ำว่า แนวทางดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าทริสจะไม่รับบริษัทเหล่านั้นเป็นลูกค้า เนื่องจากหน้าที่ของทริสคือการจัดอันดับ พร้อมทั้งย้ำว่าทริสยังคงรับจัดอันดับบริษัทส่วนใหญ่อยู่
พร้อมทั้งชี้ว่า การดำเนินงานของทริสตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งฟันเฟืองที่ทำให้ตลาดตราสารหนี้ ซึ่งเป็นแหล่งระดมทุนให้กับภาคธุรกิจ ให้สามารถเติบโตได้ สะท้อนว่าระบบนี้ยังทำงานด้วยดี
ศักดิ์ดากล่าวอีกว่า ตลาดตราสารหนี้ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีขนาดประมาณ 4.3 ล้านล้านบาทแล้ว
ส่องแนวโน้มการออกหุ้นกู้ในตลาดตราสารหนี้ไทยปีนี้
ศักดิ์ดาเปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การออกหุ้นกู้ของบริษัทไทยนับว่ามีปริมาณที่ค่อนข้างมาก แต่อาจจะชะลอตัวลงมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีการออกหุ้นกู้แตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด และแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ รีบออกหุ้นกู้เมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทริสยังคาดว่ามูลค่าการออกหุ้นกู้ของบริษัทในไทยในปีนี้น่าจะเกิน 1 ล้านล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ภาคส่วน (Sector) ที่จะออกบอนด์ต่อเนื่องคือธุรกิจพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ ลีสซิ่ง และรีเทล ซึ่งปกติเป็นกลุ่มที่ออกหุ้นกู้ค่อนข้างมากอยู่แล้ว ปีนี้จึงน่าจะเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเป็นบริษัทเครดิตเรตติ้งที่มีจำนวนลูกค้าจัดอันดับเครดิตมากที่สุดในประเทศไทย โดยนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ ทริสเรทติ้งให้บริการจัดอันดับเครดิตแก่ผู้ออกหุ้นกู้ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวนรวมประมาณ 500 แห่ง รวมมูลค่าตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตไปแล้วมากกว่า 8 ล้านล้านบาท
