การพิจารณาคดี เดเรก ชอวิน อดีตตำรวจเมืองมินนิแอโพลิส ผู้ก่อเหตุใช้เข่ากดคอจนทำให้ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสการประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนผิวสี ได้เข้าสู่กระบวนการสุดท้ายก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสิน
โดยชอวิน อดีตตำรวจผิวขาววัย 45 ปี เผชิญ 3 ข้อกล่าวหาในคดีนี้ ทั้งฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (Second-Degree Murder) ฆ่าคนตายโดยประมาท (Third-Degree Murder) และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (Manslaughter) ซึ่งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนามีโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี ขณะที่เขายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหา
คณะลูกขุนได้เริ่มต้นการไต่สวนคดีในขั้นสุดท้ายที่ศาลแขวงเฮนเนพิน เคาน์ตี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (19 เมษายน) ซึ่งถือเป็นวันแรก ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงปิดคดีจากอัยการผู้สั่งฟ้องและทนายจำเลย โดยสรุปการพิจารณาคดีในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่คณะลูกขุนจะแยกกันเก็บตัวและพักค้างคืนในโรงแรม เพื่อเตรียมการไต่สวนอีกครั้งในวันนี้ (20 เมษายน)
ในการแถลงปิดคดีนั้น สตีฟ ชไลเชอร์ อัยการผู้สั่งฟ้อง กล่าวหาชอวินว่าเป็นสาเหตุโดยตรงต่อการเสียชีวิตของฟลอยด์ หลังจากที่ใช้เข่ากดคอของฟลอยด์นานถึง 9 นาที 29 วินาที
“เขาทำในสิ่งที่ตั้งใจ และมันฆ่าจอร์จ ฟลอยด์” ชไลเชอร์กล่าว พร้อมปฏิเสธข้อโต้แย้งจากทนายจำเลยที่อ้างว่ามีปัจจัยอื่นทำให้ฟลอยด์เสียชีวิต เช่น อาการหลอดเลือดแดงตีบ การใช้ยาและควันพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถที่จอดอยู่ใกล้เคียง
“ใช้สามัญสำนึกของคุณ เชื่อในสายตาคุณ อะไรที่คุณเห็นก็เป็นอย่างที่คุณเห็น” เขากล่าวโดยอ้างถึงคลิปวิดีโอเหตุการณ์เผชิญหน้าระหว่างชอวินกับฟลอยด์ พร้อมยืนยันว่าการกระทำของนายตำรวจชอวินในขณะนั้น ไม่สมเหตุสมผลและขัดแย้งกับการฝึกตำรวจ
นอกจากนี้อัยการชไลเชอร์ชี้ว่า การที่ชอวินกดคอของฟลอยด์ไว้นานเกือบ 10 นาทีนั้น เป็นเพราะความภาคภูมิใจในอำนาจและอัตตาของเขา เมื่อเผชิญกับผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน
“เขาจะไม่ปล่อยให้คนที่ยืนมองเหล่านี้ บอกเขาว่าต้องทำอะไร เขาจะทำในสิ่งที่เขาต้องการ วิธีที่เขาต้องการ นานตราบเท่าที่เขาต้องการ และไม่มีอะไรเลย พวกเขาทำอะไรไม่ได้เพราะเขามีสิทธิ์ เขามีอำนาจ และยังมีเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ผู้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ทำอะไรไม่ได้” ชไลเชอร์กล่าว และย้ำว่าชอวินนั้น “พยายามที่จะเอาชนะ” และฟลอยด์ต้องจ่ายด้วยชีวิตของเขา
ด้าน เอริก เนลสัน ทนายจำเลย ยืนยันว่าการกระทำของชอวินเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและเป็นสิ่งที่ตำรวจมีเหตุผลสมควรจะทำในสถานการณ์เช่นนั้น เนื่องจากฟลอยด์สามารถใช้ขาและความแข็งแกร่งของร่างกายขัดขืนตำรวจ 3 นายได้ แม้จะถูกใส่กุญแจมืออยู่ ขณะที่เขามั่นใจว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าชอวินมีเจตนาหรือตั้งใจใช้กำลังที่เกินขอบเขตของกฎหมาย และชี้ว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนในการฝึกตำรวจ
“คุณต้องดูจากมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีเหตุผล คุณต้องคำนึงว่าเจ้าหน้าที่เป็นมนุษย์ สามารถทำผิดพลาดได้ในสถานการณ์ที่มีความกดดันสูง” เนลสันกล่าว และชี้ว่าในกรณีของฟลอยด์ การใช้กำลังที่เกิดขึ้นเป็นการใช้กำลังตามที่ได้รับอนุญาต
ในระหว่างการไต่สวนนั้น ฝ่ายอัยการยังได้เรียกตัวพยาน 38 คนขึ้นให้ปากคำ รวมถึงตำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธวิธีและการใช้กำลัง ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ช่วยอธิบายสาเหตุการเสียชีวิตของฟลอยด์ ส่วนทนายจำเลยเรียกตัวพยาน 7 คน แต่ไม่มีการเรียกตัวชอวิน ซึ่งใช้สิทธิ์ไม่ขึ้นให้การในการให้ถ้อยคำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง
อย่างไรก็ตามยังไม่แน่ชัดว่าการไต่สวนขั้นสุดท้ายจะใช้เวลานานแค่ไหน ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว หลังการไต่สวนคณะลูกขุนจะได้รับคำสั่งจากผู้พิพากษาให้พิจารณาคำตัดสิน ซึ่งอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือนานหลายสัปดาห์
สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐฯ พบว่าหลังจากที่เริ่มการไต่สวนเมื่อวานนี้ มีการชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้ฟลอยด์เกิดขึ้นในหลายเมือง ซึ่งทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้าควบคุมความปลอดภัยในมินนิแอโพลิส เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่สงบและการก่อจลาจลที่อาจเกิดขึ้นหากศาลมีคำตัดสิน
ภาพ: David Joles / Star Tribune via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://www.npr.org/sections/trial-over-killing-of-george-floyd/2021/04/19/988775742/trial-of-derek-chauvin-in-the-death-of-george-floyd-goes-to-the-jury
- https://edition.cnn.com/2021/04/19/us/derek-chauvin-trial-george-floyd-closings/index.html?fbclid=IwAR3ZlbcD8voX-L3GGbw05x5z2TBkejYnqHR74JxT6dBEplJ88YblcTT8Yqw