เมื่อวานนี้ (18 มิถุนายน) Vientiane Times รายงานอ้างคำพูดของ พอนปะเสิด อุ่นพม ผู้อำนวยการสำนักสุขอนามัยและส่งเสริมสุขภาพ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขของ สปป.ลาว ระบุว่า ผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั้งหมด แม้จะฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว โดยต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังจากเดินทางมาถึง สปป.ลาว
พอนปะเสิดกล่าวว่า สปป.ลาว จะไม่ใช้นโยบายพิเศษเพื่อลดเวลากักตัว โดยทางการ สปป.ลาว ได้ติดต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ใน สปป.ลาว เพื่อเผยแพร่แนวทางเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ WHO ยังไม่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น ดังนั้น ทางการ สปป.ลาว จึงปฏิบัติตามคำแนะนำปัจจุบันต่อไป
อย่างไรก็ดี ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว จะได้รับประโยชน์จากนโยบายพิเศษด้านการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสในช่วงเวลาอย่างน้อย 1 เดือน สามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทางอากาศและทางบก ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว กับแขวงอื่นๆ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน
พอนปะเสิดกล่าวว่า การใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะส่งผลดีหลายประการหลังจากมีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ เพราะประชาชนอาจต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อนได้รับอนุมัติให้สามารถเดินทางหรือทำกิจกรรมอื่นได้
ทั้งนี้ สปป.ลาว กำลังเร่งรัดแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยหวังว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปี 2021
หากนับจนถึงเมื่อวานนี้ สปป.ลาว มียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 2,047 ราย เสียชีวิต 3 ราย และยอดผู้ป่วยหายดีแล้ว 1,931 ราย โดย สปป.ลาว ตรวจพบผู้ป่วย 2 รายแรกเมื่อวันที่ 24 มีนาคมปีที่แล้ว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว
