เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (20 มกราคม) คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ได้ออกมาแถลงยืนยันถึงโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถติดต่อจากคนสู่คน โดยก่อนหน้านี้ทางการจีนเชื่อว่าไวรัสแพร่จากสัตว์สู่คนเป็นหลัก ขณะที่ภายในประเทศจีนพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 200 รายใน 3 เมืองใหญ่คือ อู่ฮั่น เซินเจิ้น และปักกิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยเพียง 32 ราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อดังกล่าวขณะนี้พบแล้ว 4 ราย ทั้งหมดอยู่ในประเทศจีน
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดในครั้งนี้ มีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วกว่าซาร์ส โดยในเบื้องต้นคณะกรรมาธิการฯ ต้องควบคุมการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ด้วยการห้ามประชาชนที่สงสัยว่าจะได้รับเชื้อเดินทางออกจากเมือง นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดที่พบนอกประเทศคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และล่าสุดคือ ไทย
กระทบอย่างไร:
การยกระดับการแพร่กระจายจากคนสู่คน ทำให้ทางการจีนต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น มิให้บุคคลที่มีความเสี่ยงเดินทางออกนอกพื้นที่หรือนอกประเทศ กระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยว
ส่งผลให้ปิดตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 มกราคม) ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม สายการบิน และท่าอากาศยาน ต่างปรับตัวลงแรง นำโดย
- บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ลดลง 9.62%DoD
- บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า (CENTEL) ลดลง 6.30%DoD
- บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MINT) ลดลง 5.04%DoD
- บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ลดลง 3.03%DoD
- บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ลดลง 3.43%DoD
- บมจ.การบินไทย (THAI) ลดลง 3.03%DoD
มุมมองระยะสั้น:
แม้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีประกาศจำกัดการเดินทางไปยังมณฑลอู่ฮั่น และปัจจุบันยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในไทย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ
ในระยะสั้น SCBS คาดหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวยากที่จะเลี่ยงแรงเทขายที่กดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง เนื่องจากนักลงทุนน่าจะวิตกว่าการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคกระจายตัวมากขึ้น และส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกชะลอการเดินทางไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ระบาดจะคลี่คลายลง ซึ่งย่อมกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งในไทย
โดยเฉพาะช่วง 1Q63 ที่ปกติอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 และด้วยปัจจัยลบดังกล่าวทำให้ช่วง 1Q63 ผลการดำเนินงานของหุ้นท่องเที่ยวมีโอกาสอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม ซึ่งเราคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิดต่อไป
มุมมองระยะยาว:
SCBS ประเมินว่า แม้กระบวนการควบคุมโรคที่เข้มงวดอาจทำให้การแพร่ระบาดของโรคสามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด และผลกระทบต่อราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวมักจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายใน 1-3 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์ แต่อย่างไรก็ดี ระยะยาวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอีกหลายเรื่อง อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวช้า การแข็งค่าของเงินบาท รวมทั้งการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง และการถูก Disruption จากคู่แข่งรายใหม่ๆ ซึ่งนักลงทุนคงยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม
- บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ประกอบธุรกิจลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการกว่า 61 แห่ง และธุรกิจอื่นๆ คือ ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า และธุรกิจบริหารอาคาร
- บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า (CENTEL) ประกอบธุรกิจโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจอาหารจานด่วนในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ของตนเองและแฟรนไชส์
- บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MINT) ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา และให้เช่าศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบันเทิงและธุรกิจจัดจำหน่าย
หมายเหตุ: %DoD คือ % การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า
ข้อมูลควรรู้:
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองและป้องกันควบคุมโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ดังนี้
- ทำการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศใน 4 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
- ขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น
- การเฝ้าระวังในชุมชน โดยให้ความรู้ประชาชน เมื่อพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค DDC Hotline 1422
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
