หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมปรับตัวในแดนบวกถ้วนหน้า รับกระแสรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยวเพิ่ม ทั้งปรับพื้นที่ทั่วประเทศเป็นสีเขียว เตรียมยกเลิก Thailand Pass ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และจ่อสนับสนุนด้านภาษีสำหรับการจัดประชุม สัมมนา และอีเวนต์
ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมวันนี้ (20 มิถุนายน) ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับขึ้นถ้วนหน้า สวนทาง SET Index ที่เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดการซื้อขายช่วงเช้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
โดยหุ้นกลุ่มสายการบิน คือ AAV ที่ปรับเพิ่มขึ้น 5.19%, BA เพิ่มขึ้น 3.85% ขณะที่หุ้นสนามบินหลักของประเทศอย่าง AOT ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.11% เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ราคาบวกถ้วนหน้า โดย ERW ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.62% MINT ปรับเพิ่มขึ้น 1.53% และ CENTEL ปรับเพิ่มขึ้น 1.18%
มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมวันนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นกลุ่มเดียวในขณะนี้ที่ยังมีกระแสข่าวเชิงบวกคอยสนับสนุน เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทางท่องเที่ยว และมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่ากลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมยังเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นตามกระแสข่าวเชิงบวกเท่านั้น เนื่องจากราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่การเติบโตของผลประกอบการจะยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง บล.เคทีบีเอสที ประเมินว่ากลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมน่าจะฟื้นตัวและมีกำไรเทียบเท่ากับระดับก่อนเกิดโควิดในอีก 2 ปีข้างหน้า
“ส่วนหุ้นการบินที่วันนี้ปรับเพิ่มขึ้นมา ก็เป็นกระแสการเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่เลือกเป็นหุ้นเด่น เนื่องจากกลุ่มการบินมีประเด็นเรื่องความแข็งแกร่งด้านการเงินที่ต้องจับตามองต่อเนื่อง” มงคลกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำหุ้นเด่นคือ CENTEL เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวในประเทศมากที่สุด และ AOT ที่ได้รับอานิสงส์ในเชิง Sentiment และเชิงปัจจัยพื้นฐานจากการเปิดประเทศรับท่องเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้ อ้างอิงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย (รายเดือน) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่อง 6 เดือนแล้ว หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 – เมษายน 2565
ด้านฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กรณีรายงานข่าวว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการสนับสนุนการจัดประชุม สัมมนา และอีเวนต์ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนได้ หากเป็นการจัดในจังหวัดหลัก (22 จังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร) สามารถนำรายจ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า และหากจัดในจังหวัดรองสามารถลดหย่อยภาษีได้ 2 เท่านั้น หากได้รับการอนุมัติจะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจกลุ่ม MICE (Meetings, Incentives, Conferences,
Exhibitions) ในประเทศ ซึ่งสอดรับกับการปรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 สร้างความมั่นใจให้ประชาชนกลับสู่วิถีชีวิตใกล้เคียงก่อนเกิดโควิดมากขึ้น
โดยหุ้นที่จะได้ประโยชน์สูงสุดหากมาตรการดังกล่าวได้รับการอนุมัติคือ CENTEL ซึ่งเมื่อพิจารณารายได้จาก Convention Hall ที่ centralwOrld ช่วงปี 2561-2562 เฉลี่ยอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท (สัดส่วน 6-7% ของรายได้โรงแรม) ก่อนจะลดลงเหลือ 45 ล้านบาทในปี 2564 เพราะโควิด ขณะที่ข้อมูลงวด 5 เดือนแรกปี 2565 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวมาอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท หลังจากการแพร่ระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลาย
ส่วนหุ้นโรงแรมที่ได้อานิสงส์ทางอ้อมอย่าง ERW ที่มีโครงสร้างรายได้จากโรงแรมไทยราว 93% ของรายได้ปี 2562 สำหรับ MINT ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของโรงแรมในต่างประเทศ (สัดส่วน 62% ของรายได้ปี 2562)
ดังนั้น จึงแนะนำหุ้นเด่นคือ CENTEL ราคาเหมาะสมปี 2565-2566 ที่ 44 บาท และ 50 บาท เนื่องจากมีงบดุลที่แข็งแกร่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/65 มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (IBD/E) ที่ 0.87 เท่า ต่ำกว่า ERW และ MINT ที่ 2 เท่า และ 1.7 เท่า ตามลำดับ ทำให้ทนทานสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและ Macro Risk ดีกว่ากลุ่ม
ขณะที่ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ MINT ที่ 42.5 บาท จากการฟื้นตัวใน EU ส่วน ERW ประเมินราคาเหมาะสมปี 2565-2566 ที่ 3.9 บาท และ 4.6 บาท ซึ่งเหมาะกับการเก็งกำไรยามมีข่าวบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
ด้านฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี ระบุว่ากรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายเพิ่มเติม มีการปรับพื้นที่ทั่วประเทศเป็นสีเขียว เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาใช้ชีวิตแบบเป็นปกติก่อนเกิดโควิด-19 โดยจะยกเลิก Thailand Pass การเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รวมทั้งยกเลิกการกำหนดเงินประกันการเดินทางสำหรับชาวต่างชาติ จะเป็นผลเชิงบวกต่อหุ้นท่องเที่ยว โรงแรม และกลุ่มเปิดประเทศ ประกอบด้วย AOT, MINT, CENTEL, ERW, BEM, BTS, CPN