วันนี้ (26 สิงหาคม) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลที่อาจเลื่อนกำหนดการใช้จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากกฎหมาย 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับนโยบายยังไม่สามารถผลักดันได้ในสภาฯ ว่า วาระการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลโดยตรง ซึ่งมี 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขนส่งทางราง, พ.ร.บ.ตั๋วร่วม, และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
พริษฐ์ยืนยันว่า พรรคประชาชนเห็นด้วยในหลักการที่จะทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึงประชาชน สะดวก ราคาถูก และครอบคลุม ทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์ แต่มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับวิธีการที่รัฐบาลดำเนินการ ในเรื่องงบประมาณ ซึ่งอาจมีการดำเนินการใดๆ ที่เสี่ยง หรือเอื้อต่อเอกชน
พริษฐ์กล่าวอีกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้จุดยืนของพรรคประชาชนต่อร่างกฎหมาย 3 ฉบับนี้ มีความแตกต่างกันออกไป ในส่วนของ พ.ร.บ. ราง และ พ.ร.บ. ตั๋วร่วม พรรคมีความเห็นชอบ แต่ต้องผลักดันสาระสำคัญที่อยู่ในร่างกฎหมายที่พรรคเคยเสนอประกบเข้าไปด้วย เช่น การคำนวณค่าโดยสารที่ไม่คิดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนกัน และสามารถดำเนินการลดค่าโดยสารให้กับประชาชนได้
ขณะที่ร่าง รฟม. พรรคก็มีความกังวลเกี่ยวกับวิธีการและแหล่งที่มาของเงินที่รัฐบาลเลือกใช้ ขณะเดียวกันการที่รัฐบาลออกมาประกาศว่าอาจเลื่อนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ออกจากเส้นตายวันที่ 1 ตุลาคม ทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดจึงเกิดความล่าช้า และนโยบายเรือธงจะทำได้ก็ต่อเมื่อกฎหมาย 3 ฉบับผ่านใช่หรือไม่
เหตุใดจึงประกาศวันบังคับใช้เป็น 1 ตุลาคม ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ และในเมื่อรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทำไมถึงไม่สามารถใช้เสียงข้างมากผลักดันนโยบายเรือธงได้ ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เรื่องกฎหมาย 3 ฉบับมาเป็นข้ออ้างในการเลื่อนนโยบาย แต่ความล่าช้านี้อาจสะท้อนให้เห็นถึง การวางแผนที่ไม่รอบคอบของรัฐบาลเอง
