บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งในภาคธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร และเทคโนโลยี รวมกว่า 600 บริษัท จับมือกับสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมนับร้อยแห่งของสหรัฐฯ ร่วมเตือนในจดหมายถึงทำเนียบขาวว่า มาตรการภาษีที่สหรัฐฯ บังคับใช้กับสินค้าส่งออกของจีน จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง อีกทั้งส่งผลให้คนอเมริกันจำนวนมากต้องตกงาน และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภคหลายล้านคน
บริษัทที่ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาล้มเลิกกำแพงภาษีและยุติสงครามการค้ากับจีน ประกอบด้วย Walmart, Gap, Levi’s, Foot Locker และแบรนด์ชั้นนำอีกรวมกว่า 600 ราย
“เราทราบมาแต่แรกว่าการขยายกำแพงภาษีจะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างใหญ่หลวงในระยะยาวต่อธุรกิจ เกษตรกร ครัวเรือน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ” จดหมายระบุ “สงครามการค้าที่ตึงเครียดขึ้นไม่ส่งผลดีต่อเรา เพราะสองฝ่ายจะสูญเสียทั้งคู่”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาประกาศใช้มาตรการภาษีชุดใหม่กับสินค้าจีนครอบคลุมมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ หากการเจรจาระหว่างเขากับ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในเวที G20 ไม่คืบหน้า โดยสินค้าที่อยู่ในข่ายถูกเก็บภาษีเพิ่ม ครอบคลุมเสื้อผ้า, รองเท้า, ของเล่น, เครื่องใช้ และโทรทัศน์
“เรายังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การตอบโต้กันไปมาด้วยมาตรการภาษี กำแพงภาษีไม่ใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยแก้ปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับจีนได้ เพราะบริษัทในสหรัฐฯ จะเป็นคนจ่ายภาษีอากรที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่จีน การขึ้นภาษีและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในการเจรจาการค้า สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด และเป็นภัยเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ” บริษัทในสหรัฐฯ ส่งคำเตือนถึงทรัมป์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: