Toyota Prius Hybrid เคยเป็นหนึ่งในรถยนต์พลังงานสะอาดรุ่นที่ได้รับความสนใจสูงสุดจากผู้ซื้อที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับประหยัดค่าน้ำมันจากทั่วโลก
แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกอย่าง Toyata กลับแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีจากรถยนต์พลังงานน้ำมันไปสู่พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% อย่างรุนแรง
ในเดือนที่ผ่านมา คริส เรย์โนลด์ส ผู้บริษัทระดับสูงของบริษัทที่รับผิดชอบด้านการเจรจากับรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้เดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อร่วมการประชุมแบบปิดกับสมาชิกสภาครองเกสของสหรัฐ
โดยในการประชุม เรย์โนลด์สได้แสดงออกว่า Toyata ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนผ่านอย่างรีบเร่งให้รถยนต์ทั้งหมดหันไปใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมองว่าการผลักดันรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดหรือพลังงานผสมผสาน เช่น Prius และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน จะสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า แม้ว่าค่ายรถยนต์คู่แข่งต่างกำลังมุ่งทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ Toyota เลือกที่จะเดิมพันอนาคตของบริษัทระยะยาวเอาไว้ที่การพัฒนารถยนต์พลังงานไฮโดรเจนและการเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฮบริดในระยะสั้น ทำให้บริษัทสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไป
นอกจากการแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์พลังงานฟอสซิลไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างรีบเร่งของรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว Toyata ยังแสดงท่าทีเดียวกันกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย โดยเมื่อไม่นานมานี้ ผู้บริหารของ Toyata ในอินเดียได้วิพากษ์วิจารณ์เป้าหมายของอินเดียที่ต้องการให้ค่ายรถยนต์ในประเทศทั้งหมดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ภายในปี 2030 ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้จริง
นอกจากนี้ Toyata ยังเคยร่วมกับค่ายรถยนต์อื่นๆ สนับสนุนรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการต่อสู้กับรัฐแคลิฟอร์เนียเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอากาศสะอาดหรือ Clean Air Act ร่วมถึงการฟ้องร้องกับรัฐบาลเม็กซิโกเรื่องเกณฑ์ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและการแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีคาร์บอนในญี่ปุ่น
“Toyata เปลี่ยนสถานะของตัวเองจากที่เคยเป็นผู้นำเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของอุตสาหกรรมมาเป็นบริษัทที่ตามหลังคนอื่น” แดนนี แมกิลล์ นักวิเคราะห์ของ InfluenceMap หน่วยงานในลอนดอนที่ทำหน้าที่ติดตามการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ กล่าว
โดย Toyata ได้รับเกรด D- ในการจัดอันดับองค์กรธุรกิจที่มีนโยบายสอดคล้องกับเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกของ InfluenceMap
ในแถลงการณ์ล่าสุดของบริษัท Toyota ปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้คัดค้านกระแสการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า โดย อีริก บูธ โฆษกของบริษัท กล่าวว่า “พวกเราเห็นด้วยและยอมรับว่าการเปลี่ยนให้รถยนต์ในโลกหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เราแค่ต้องการชี้ให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ในเมื่อ 98% ของรถยนต์และรถบรรทุกที่ขายอยู่ในตลาดตอนนี้ยังต้องใช้พลังงานจากน้ำมัน”
บูธกล่าวอีกว่า ก่อนที่การเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% จะเกิดขึ้นได้จริง มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Toyota จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการขายรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดที่มีอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน Toyata จะเร่งพัฒนารถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนเพิ่มเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
“การเลือกว่ารถยนต์ที่เราผลิตจะใช้เทคโนโลยีพลังงานอะไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และราคาของรถยนต์จะต้องไม่แพงเกินไปจนคนจับต้องไม่ได้” แถลงการณ์ของ Toyota ระบุ
อ้างอิง: