ทัศนคติ-การแบ่งชนชั้นภายในทีม สาเหตุสำคัญที่ทำให้สเปอร์สไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้

สีหน้า แววตา และน้ำเสียงของ โชเซ มูรินโญ บ่งบอกได้ชัดถึงความเจ็บปวดจากการที่ทีมของเขาถูก ดินาโม ซาเกร็บ เขี่ยตกรอบยูฟ่ายูโรปาลีก ในเกมเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ที่เจ็บมากกว่านั้นคือการที่มูรินโญแพ้ให้ต่อทีมที่ไม่มี โซรัน มามิช โค้ชตัวจริงคุมทีมอยู่ข้างสนาม เนื่องจากถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 5 ปี จากคดีการหลบเลี่ยงภาษีก่อนหน้าที่เกมนี้จะเริ่มต้นขึ้นแค่สองวัน

สำหรับคนที่มีศักดิ์ศรีและความภูมิใจของการเป็น The Special One อย่างมูรินโญ ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ทำใจยากจะยอมรับได้

แต่เมื่อเกมจบลง สิ่งที่มูรินโญทำคือการเดินไปเพื่อปรบมือแสดงความยินดีต่อทางด้านผู้เล่นของทีมซาเกร็บที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม

“พวกเขาทุ่มเททุกหยาดเหงื่อ พลัง เลือดเนื้อลงไป และเมื่อเกมจบลงพวกเขาก็ร้องไห้ด้วยความสุข พวกเขาเล่นอย่างเจียมตัวและมุ่งมั่น ผมจึงต้องชื่นชมพวกเขา” มูรินโญกล่าว

ในทางกลับกัน เกิดอะไรขึ้นกับสเปอร์สของเขา?

คำอธิบายของมูรินโญคือ สเปอร์สคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ตรงข้ามกับที่ดินาโม ซาเกร็บทำ โดยเฉพาะในเรื่องของทัศนคติ

“สำหรับผม ความเป็นมืออาชีพมันเริ่มต้นจากทัศนคติ เราต้องใช้ชีวิตด้วยทัศนคติที่ดีในทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาทีในเกมการเล่นก่อน ที่เหลือคือเรื่องของพรสวรรค์ในการเล่นว่าใครมีมากหรือมีน้อยที่จะเป็นสิ่งตัดสินเกม เพียงแต่ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับทัศนคติในการเล่น และดินาโมเหนือกว่าเราในเรื่องนี้

“พวกเขา (สเปอร์ส) ดูไม่เหมือนทีมที่ลงเล่นในเกมสำคัญเลย ถ้ามันจะมีใครสักคนในทีมที่ไม่คิดว่าสำคัญก็ช่าง แต่สำหรับผมมันคือเกมสำคัญ”

มูรินโญยังเปรียบให้เห็นว่าสเปอร์สในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นไม่เพียงแต่จะขาด ‘หลักการพื้นฐานในการเล่นฟุตบอล’

แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่ ‘หลักการพื้นฐานในชีวิต’ อย่างการเคารพต่ออาชีพการงานของตัวเอง และพยายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อทำทุกสิ่งให้ถูกต้องด้วย

ในบทสัมภาษณ์หลังจบเกมที่มีความยาว 8 นาทีของกุนซือชาวโปรตุเกสจึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และน่าคิดว่าอนาคตของเขากับสเปอร์สจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ เมื่อเห็นได้ชัดหลายต่อหลายครั้งในฤดูกาลนี้ว่า ทุกครั้งที่เหมือนทีมกำลังจะไปได้สวย สเปอร์สก็จะสะดุดขาตัวเองล้มลงทุกครั้ง

“ผมทำได้เพียงแต่ขอโทษต่อแฟนสเปอร์ส ผมหวังว่าพวกเขาจะรู้สึกแบบเดียวกับที่ผมรู้สึก” มูรินโญกล่าว

“วันนี้มันคือเรื่องของความเป็นกับความตาย และสำหรับในช่วงเวลานี้ พวกเราไม่รอด”

มูรินโญไม่ได้เป็นคนเดียวที่เจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ และต้องกระเด็นตกรอบในครั้งนี้ ในขณะที่ทีมร่วมลีกอย่างอาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ เพราะยังมี ฮูโก ยอริส ผู้รักษาประตูกัปตันทีมที่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม

ยอริสบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับสเปอร์สในวันนี้เป็นรื่องที่น่าละอาย และชี้ให้เห็นปัญหาภายในทีมที่ดูเหมือนจะหยั่งรากลึกและแก้ยากกว่าที่คิด

สิ่งที่นายทวารชาวฝรั่งเศสเปิดเผยคือภายในทีมได้มีการแบ่งชนชั้น และเรื่องนี้ทำให้ทีมไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในทีม โดยเฉพาะเมื่อนักเตะไม่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง

“การเล่นเป็นทีมเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในเกมฟุตบอล” ยอริสเผยความลับ “การตัดสินใจของผู้จัดการทีมไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเราต้องทำตาม ถ้าจะทำตามแนวทางของทีมเฉพาะในเวลาที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเท่านั้น มันจะทำให้ทีมเจอกับปัญหาใหญ่

“คนบนม้านั่งสำรองก็สามารถมีอิทธิพลในการจะช่วยผลักดันคนอื่นในทีมได้ ในการซ้อมก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องพร้อมที่จะผลักดันกันและกัน และทำให้แน่ใจได้ว่าทุกคนพร้อมจะช่วยทีมเมื่อถึงเวลา ไม่ใช่จะเอาแต่หลบไปอยู่ข้างๆ และโอดครวญอย่างเดียว เพราะเราต้องเคารพต่อตราสัญลักษณ์ของสโมสรด้วย เรื่องนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด”

และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ยอริสตัดสินใจพูดออกมา คือการเปรียบเทียบให้ทุกคนได้เห็นภาพปัญหาของสเปอร์สชัดขึ้น

“เราเป็นสโมสรที่มีความทะเยอทะยานเต็มเปี่ยม แต่ทีมในเวลานี้ก็คือภาพสะท้อนของสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสโมสร”

ขณะที่ทางด้าน เกล็นน์ ฮอดเดิล ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสเปอร์ส วิเคราะห์เกมทางสตูดิโอ BT Sport ว่าปัญหาใหญ่ของสเปอร์สคือเรื่องของสภาพจิตใจ และความคิดที่ไม่ถูกต้องสำหรับการต่อสู้ในสนาม

“พวกเขาหลงทางและสูญเสียหัวจิตหัวใจของการต่อสู้” ฮอดเดิลกล่าว

สำหรับหลังจากนี้ สเปอร์สยังเหลือเส้นทางของการต่อสู้เพื่อลุ้นชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ โดยเวลานี้พวกเขาอยู่อันดับที่ 8 ตามหลังเชลซีอยู่ 6 คะแนน และมีโอกาสลุ้นแชมป์ในรายการลีกคัพ ที่จะพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

ทั้งสองอย่างคือความหวังสุดท้ายในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยเรื่องราว มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและร้าย ขึ้นสุดและลงต่ำราวกับรถไฟเหาะตีลังกา

สเปอร์สยังมีโอกาสจะกลับมาแก้ตัวได้ แต่พวกเขาจำเป็นต้องจับมือกันสู้อีกครั้ง

คำถามคือทุกคนยังอยากจะสู้ต่อไปด้วยกันไหม?

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: