เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศวันที่ 10 สิงหาคม 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TOP ปรับตัวลง 15.7%MoM สู่ระดับ 47.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 2.9%MoM สู่ระดับ 1,552.36 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิ 2Q64 ของ TOP จะลดลง 15.4%QoQ (แต่เพิ่มขึ้น 14.7%YoY) สู่ระดับ 2.8 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน (หลังหักขาดทุนจากอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยง) ที่ลดลง
โดยคาดว่ากำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 2Q64 อยู่ที่ 3.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากระดับ 6.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลใน 1Q64 แม้ทิศทางราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นแต่ถูกหักล้างจากขาดทุนจากอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง ขณะที่กำไรปกติ 2Q64 จะเติบโต 27.8%QoQ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ดีขึ้น
กำไรขั้นต้นโดยรวม (GIM) 2Q64 จะเพิ่มขึ้น 41%QoQ สู่ 5.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับการสนับสนุนจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ (หลักๆ คือเบนซิน) และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่สูงขึ้น แต่ขณะที่ Crack Spread ของผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและน้ำมันอากาศยาน จะถูกลดทอนบางส่วนด้วย Crude Premium เทียบกับน้ำมันดิบดูไบที่สูงขึ้น
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าแนวโน้มผลประกอบการ 2H64 ของ TOP จะอ่อนตัวลง HoH เนื่องจากจะไม่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวนมากเกิดขึ้นอีก โดย TOP อาจมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันหากทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบัน
ขณะที่ค่าการกลั่น (Market GRM) มีโอกาสปรับตัวขึ้นเพราะอุปทาน Gasoil (หลักๆ คือน้ำมันดีเซล) ในตลาดภูมิภาคตึงตัวมากขึ้น รวมถึงอุปสงค์น้ำมันอากาศยานมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการเดินทางทางอากาศเพิ่มมากขึ้น แต่อาจถูกหักล้างด้วยอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่ลดลงเพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้