*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของอนิเมะ My Hero Academia ซีซัน 5 *
“แม้แต่ออลไมท์เอง ก็มีตอนที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อยู่ด้วยเหรอครับ”
“มีสิ เยอะเลยด้วย แม้แต่ตอนนี้เอง ก็อาจจะมีใครสักคนที่กำลังเจ็บปวดอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ก็เป็นได้ ถึงจะน่าเจ็บใจ แต่ฉันมันก็แค่คนคนหนึ่ง ไม่อาจจะช่วยคนที่อยู่ในที่ที่ฉันเอื้อมมือไปไม่ถึงได้หรอก”
นี่คือบทสนทนาช่วงหนึ่งของ มิโดริยะ อิสึกุ และ ออลไมท์ สองตัวละครหลักจากอนิเมะ My Hero Academia ที่พาผู้ชมไปทำความรู้จักมุมมองอีกด้านหนึ่งของฮีโร่อันดับหนึ่ง และเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพที่คอยค่ำจุนความสงบสุขของสังคม แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจช่วยเหลือผู้คนได้ทั้งหมด
จนกระทั่งเรื่องราวของ My Hero Academia ซีซัน 5 ได้เดินทางมาถึงตอนจบ ดูเหมือนว่าหนึ่งในตัวละครที่ออลไมท์ไม่สามารถเอื้อมมือไปถึงจะเป็น ชิการาคิ โทมูระ เด็กหนุ่มผู้เปรียบเสมือนเป็น ‘ขั้วตรงข้าม’ ของอิสึกุ ที่เคยวาดฝันว่าอยากจะเป็นฮีโร่เพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่ ณ ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นวิลเลินที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งอย่างด้วย ‘มือ’ ของตัวเอง
ชิการาคิ โทมูระ มีชื่อเดิมว่า ชิมูระ เทนโกะ เขาเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ มีพ่อที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีตายายและแม่คอยให้ความอบอุ่น มีพี่สาวและสุนัขตัวน้อยคอยเล่นด้วย
หากมองจากทั้งหมด ครอบครัวของเทนโกะดูจะเป็นครอบครัวที่ใครหลายคนต่างใฝ่ฝัน แต่ภายใต้ความเพรียบพร้อมเหล่านั้นมีอยู่เรื่องหนึ่งที่เทนโกะไม่สามารถมีได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ นั่นคือ ‘ความฝันที่อยากจะเป็นฮีโร่’ เพราะพ่อของเทนโกะได้สั่งห้ามไม่ให้เขาพูดถึงฮีโร่อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกทำโทษให้ออกไปนั่งสำนึกผิดที่สวนคนเดียว อีกทั้งยังออกคำสั่งให้ทุกคนในบ้านห้ามเข้าไปช่วยเทนโกะถ้าเขาไม่ยอมขอโทษ
ด้วยความที่ทุกคนในบ้านต่างเคารพพ่อในฐานะหัวหน้าครอบครัว ทุกคนจึงทำได้เพียงคอยปลอบใจเทนโกะเท่านั้น และยังไม่มีใครคิดที่จะช่วยผลักดันให้เทนโกะได้ทำตามความฝันที่อยากจะเป็นฮีโร่อีกด้วย
“คำพูดของผู้ใหญ่มีน้ำหนักเสมอ เพราะอย่างนั้นถ้าพวกคุณช่วยออกปากให้ผมบ้าง แค่ประโยคเดียวก็ยังดี”
จนกระทั่งวันหนึ่งพี่สาวของเทนโกะได้แอบพาเขาเข้าไปในห้องของพ่อ เพื่อพาไปดูรูปของ ชิมูระ นานะ ย่าของเขา ผู้เป็นอดีตฮีโร่ที่ถือครองพลังวันฟอร์ออล และเป็นอาจารย์ของออลไมท์ ซึ่งทำให้เขาที่รู้ว่ามีคนในครอบครัวเป็นฮีโร่เริ่มมีแรงผลักดันในการเป็นฮีโร่มากขึ้นกว่าเดิม
แน่นอนว่าไม่นานจากนั้น เทนโกะถูกพ่อจับได้ว่าแอบเข้าไปในห้องของตัวเอง เทนโกะจึงถูกพ่อตบหน้าด้วยความโกรธและไล่เขาให้ไปนั่งสำนึกผิดที่สวน ขณะเดียวกันทุกคนในครอบครัวก็ทำได้เพียงยืนมองเทนโกะถูกพ่อตบหน้าเท่านั้น ซึ่งในช่วงนี้เองที่ผู้ชมจะได้ทราบเหตุผลของพ่อว่า เขาถูกนานะผู้เป็นแม่ทอดทิ้งไปตั้งแต่เด็กๆ เพื่อไม่ให้เขาต้องมาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ระหว่างนานะและวิลเลิน จึงทำให้เขาเกลียดการเป็นฮีโร่
อย่างไรก็ตาม จากการกระทำที่ขาดสติของพ่อ ก็กลายเป็นตัวจุดชนวนให้เทนโกะเริ่มเกลียดทุกคนภายในบ้านที่ไม่เคยอยู่เคียงข้างเขา จนทำให้อัตลักษณ์ (ชื่อพลังพิเศษใน My Hero Academia) ‘ย่อยสลาย’ ของเขาตื่นขึ้น และนำมาสู่โศกนาฏกรรมที่เขาได้สังหารทุกคนในครอบครัวไปในที่สุด
เทนโกะที่เพิ่งจะลงมือสังหารทุกคนในครอบครัว ได้ออกเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย โดยหวังว่าจะมีใครสักคนผ่านมาช่วยเหลือเขา แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ดูน่ากลัวและมือที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ผู้คนรอบข้างจึงต่างหวาดกลัวและพยายามเดินออกห่าง พร้อมกล่าวกับเทนโกะว่า “เดี๋ยวก็คงมีฮีโร่มาช่วยเอง”
แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่มีฮีโร่คนไหนเดินเข้ามาช่วยเหลือเทนโกะแม้แต่คนเดียว ยกเว้นเพียง ออลฟอร์วัน บุรุษผู้อยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าวิลเลิน ที่มองเห็นถึงแววตาแห่งความเคียดแค้นของเทนโกะ ออลฟอร์วันจึงเข้าไปโอบกอดเทนโกะและมอบชื่อใหม่ให้แก่เด็กหนุ่มผู้ถูก ‘สังคมฮีโร่ทอดทิ้ง’ ว่า ชิการาคิ โทมูระ พร้อมหมายมั่นที่จะปลูกปั้นให้เขากลายเป็นออลฟอร์วันคนต่อไป
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ มีผมอยู่ทั้งคน”
จากเด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็น ‘ฮีโร่’ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นผู้นำแห่ง ‘แนวรบปลดแอกพลังพิเศษ’ ที่ห้อมล้อมไปด้วยเหล่าวิลเลินฝีมือฉกาจฉกรรจ์ เพื่อเป้าหมายที่จะทำลายสังคมฮีโร่ให้ดับสูญ
คำถามสำคัญคือ อะไรกันที่ทำให้โทมูระมาถึงจุดนี้ เพราะเขาได้บังเอิญมาพบกับออลฟอร์วัน หรือเป็นเพราะไม่มีฮีโร่คนไหนเข้ามาช่วยเขา
ดูเหมือนว่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดจะเริ่มมาจาก ‘ครอบครัว’ ของโทมูระที่พยายาม ‘กักขัง’ ‘ความฝันที่อยากจะเป็นฮีโร่ ทั้งพ่อของเขาที่ใช้ปมปัญหาในอดีตมาเป็นเหตุผล รวมถึงแม่และทุกคนในครอบครัวที่ไม่มีใครกล้าขัดขืนพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว นั่นจึงทำให้บ้านอันแสนอบอุ่นของโทมูระเริ่มกลายเป็น ‘กรงขัง’ ไม่ให้เขาได้ออกโบยบิน
ตลอด 4 ซีซันที่ผ่านมา โทมูระมักจะกล่าวกับพรรคพวกของตัวเองอยู่เสมอว่า “ใช้ชีวิตตามใจชอบได้เลย” ซึ่งหากย้อนมองอดีตที่ผ่านมาของเขาแล้ว เราก็อาจจะตีความหมายได้ว่า โทมูระเข้าใจถึงรสชาติของการถูก ‘กักขัง’ เป็นอย่างดี เขาจึงปล่อยให้พรรคพวกได้ทำตามใจตัวเองอย่างอิสระ
และถ้าเราลองมองเรื่องราวของโทมูระให้ลึกลงไปอีกสักหน่อย โทมูระอาจจะกำลังทำหน้าที่เป็นภาพสะท้อนของเหล่าเด็กหนุ่มและหญิงสาวที่ต่างก็มี ‘ความฝัน’ เป็นของตัวเอง แต่กลับถูกครอบครัวกักขังความฝันของตัวเองไป โดยใช้คำว่า ‘ความหวังดี’ เป็นเหตุผล
เพราะหากในวันนั้น แม่ของโทมูระหรือใครสักคนในครอบครัวกล้าที่จะเข้าไปพูดคุยกับพ่อ เพื่อช่วยผลักดันให้โทมูระได้ทำตามความฝัน หรือหากพ่อของโทมูระเลือกที่จะละทิ้งปมปัญหาของตัวเองลง แล้วรับฟังความรู้สึกของโทมูระดูบ้าง
เด็กหนุ่มคนนี้ก็อาจจะยังคงใช้ชื่อเดิมว่า ชิมูระ เทนโกะ แล้วกลายเป็นฮีโร่ที่คอยช่วยเหลือผู้อื่น เช่นเดียวกับ ชิมูระ นานะ ย่าของเขาก็เป็นได้
สามารถรับชมอนิเมะ My Hero Academia แบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้วทาง Netflix, iQIYI, Pops, LINE TV, WeTV, Viu และ TrueID สำหรับฉบับมังงะแปลไทยถือลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์ Siam Inter Comics
ภาพ: myheroacademia.fandom
