Tokyo Revengers คือภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ดัดแปลงมาจากมังงะแนวนักเลงญี่ปุ่นของ เคน วาคุอิ โดยได้ผู้กำกับมากฝีมือ ฮานาบุสะ สึโตมุ ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันมาแล้วอย่าง Kakegurui The Movie (2019) และ Grand Blue (2020) มารับหน้าที่ดัดแปลงเรื่องราวบนหน้าหนังสือให้ออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์
สำหรับใครที่ไม่เคยติดตามมังงะหรืออนิเมะมาก่อน Tokyo Revengers บอกเล่าเรื่องราวของ ทาเคมิจิ (คิตามุระ ทาคุมิ) ชายหนุ่มวัย 26 ปี ผู้ไม่เคยทำอะไรประสบความสำเร็จสักอย่าง วันหนึ่งเขาได้ทราบข่าวการว่า ฮินาตะ (อิมาดะ มิโอะ) อดีตแฟนสาวได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ โตเกียวมันจิไค แก๊งยากูซ่าชื่อดัง และในวันเดียวกัน ระหว่างที่ทาเคมิจิกำลังรอรถไฟกลับบ้าน เขาก็ถูกใครบางคนผลักให้ตกจากชานชาลาจนถูกรถไฟชนเสียชีวิต
แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อทาเคมิจิตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีตเมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขายังคบหากับฮินาตะ และได้มาพบกับ ไมค์กี้ (โยชิซาวะ เรียว) และ ดราเค่น (ยามาดะ ยูกิ) สองผู้ก่อตั้งแก๊งโตเกียวมันจิไค ทาเคมิจิจึงตัดสินใจเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของโตเกียวมันจิไค เพื่อหาทางช่วยเหลือฮินาตะที่จะต้องเสียชีวิตลงในอีก 12 ปีข้างหน้า
ความโดดเด่นข้อแรกที่ดึงดูดเรามากๆ ตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉาย คือเสน่ห์ของทัพนักแสดงมากฝีมือที่ถูกแคสติ้งให้มาสวมบทบาทเป็นเหล่าวัยรุ่นโตมัน ซึ่งทุกคนต่างถ่ายทอดคาแรกเตอร์ที่แต่ละคนได้รับออกมาได้อย่างน่าจดจำ โดยเฉพาะสองนักแสดงนำอย่าง ยามาดะ ยูกิ ในบทบาทของ ดราเค่น และ โนบุยูกิ ซูซูกิ ในบทบาทของ คิโยมิซึ ที่เคยสู้รบปรมมือกันมาแล้วในซีรีส์นักเลงยอดฮิต High & Low The Story of S.W.O.R.D. (2015) ซึ่งครั้งนี้พวกเขาก็ยังคงถ่ายทอดบทบาทนักเลงสุดเท่ได้อย่างมีเสน่ห์ไม่แพ้ผลงานก่อนหน้าทีเดียว
ด้าน คิตามุระ ทาคุมิ จากภาพยนตร์ Let Me Eat Your Pancreas (2017) ก็นำเสนอการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและการพยายามข้ามผ่านความกลัวของตัวละครทาเคมิจิ จนสามารถชักชวนให้เราอยากเอาใจช่วยเจ้าทาเคมิจิจอมห่วยคนนี้ไปจนถึงตอนจบ (แม้ว่าจะเรารู้เรื่องราวอยู่ก่อนแล้วก็ตาม) รวมถึง โยชิซาวะ เรียว จากภาพยนตร์ Kingdom (2019) ที่เหมาะสมกับบทบาทของ ไมค์กี้ มากๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนผู้ชายขี้เล่น แต่ขณะเดียวกันก็มีมุมที่น่าเกรงขาม
ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ส่งให้ภาพลักษณ์ของนักแสดงทุกคนล้วนน่าจดจำ คือการออกแบบเสื้อผ้าหน้าผมที่ดึงเสน่ห์ของนักแสดงออกมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงการแต่งหน้าเอฟเฟกต์บาดแผลที่สมจริงก็ช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นสมจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ด้านเนื้อหาของภาพยนตร์ เราคิดว่าทางทีมสร้างค่อนข้างจะดัดแปลงเนื้อหาสำคัญของมังงะต้นฉบับออกมาได้อย่างครบถ้วน ไม่ยืดเยื้อเกินไปหรือรวบรัดเกินไป อีกทั้งภาพยนตร์ยังคงรักษาแกนหลักสำคัญของ Tokyo Revengers ที่พูดถึงการยอมรับและเผชิญหน้ากับความกลัวของตนเอง และถูกนำเสนอผ่านองค์ประกอบต่างๆ ของภาพยนตร์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
ขณะเดียวกัน Tokyo Revengers อาจจะมีจุดด้อยที่เรารู้สึกเสียดายอยู่เล็กๆ ในแง่ของฉากแอ็กชันใหญ่ของเรื่อง ที่เรารู้สึกว่าตัวภาพยนตร์ทำออกมาได้ไม่น่าจดจำเท่าไรนักเมื่อเทียบกับผลงานต้นฉบับ
ในภาพรวมแล้ว Tokyo Revengers นับว่าเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ดัดแปลงมาจากมังงะอีกหนึ่งเรื่อง ที่นำเสนอองค์ประกอบของมังงะต้นฉบับออกมาได้อย่างครบถ้วน ทั้งการออกแบบคาแรกเตอร์ที่มีเสน่ห์ดึงดูด ทัพนักแสดงที่ถ่ายทอดแง่มุมของตัวละครออกมาได้อย่างมีมิติ และยังคงรักษาแกนหลักของเรื่องเอาไว้เป็นอย่างดี
Tokyo Revengers มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=luhpnySh–g
ภาพ: revengers_movie / Twitter