ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ไตรมาส 1/64 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ธุรกิจหลักปรับตัวดีขึ้น ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุน และรับรู้รายได้พิเศษจากเงินลงทุน รวมถึงการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตของทิสโก้ที่ลดลง
ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 3,110 ล้านบาท ลดลง 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับลดลงของสัดส่วนสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่มีอัตราผลตอบแทนสูง รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาด
โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.66% ลดลงจากไตรมาส 4/63 ที่อยู่ระดับ 4.76%
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 1,991.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับธุรกิจตลาดทุน พร้อมกับการรับรู้กำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) จำนวน 312.62 ล้านบาท ซึ่งช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าติดลบ 87.27 ล้านบาท
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.5% ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากมาตรการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทมีระดับเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 222% ณ สิ้นไตรมาส 1/64
ขณะที่เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีจำนวน 220,757 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากสิ้นปีก่อนหน้า จากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย ตามการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังในภาวะความเสี่ยงที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ทิสโก้มีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 23.0% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.3% และ 4.7% ตามลำดับ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์