ธนาคารทิสโก้ จัดโครงการพิเศษ ‘คืนรถจบหนี้’ ช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อ-จำนำทะเบียนรถยนต์ทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากโควิดระลอกใหม่ หากผ่อนค่างวดไม่ไหวสามารถนำรถมาคืนได้ โดยที่ธนาคารจะยกหนี้ให้ตามเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อให้ลูกหนี้ปลดภาระและกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยเปิดรับลงทะเบียนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
เมธา ปิงสุทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารจึงจัดตั้งโครงการพิเศษภายใต้ชื่อ ‘คืนรถจบหนี้’ เพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าเช่าซื้อและลูกค้าจำนำทะเบียนรถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ด้วยการเร่งเข้าไปช่วยเหลือในกลุ่มที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้มีทางเลือกในการคืนรถ โดยที่ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบหรือ ‘ยกหนี้ให้’ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด กล่าวคือหากมีส่วนต่างผลขาดทุนจากการขายรถ และธนาคารจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม พร้อมระบุสถานะเป็นลูกค้า ‘ปิดบัญชี’ และหากผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสกลับมาทำธุรกรรมขอสินเชื่อได้ใหม่
“การให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารจะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบระดับเล็กน้อย ระดับปานกลาง และระดับรุนแรง โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบระดับเล็กน้อยถึงระดับปานกลาง แนวทางในการให้ความช่วยเหลือจะอยู่ในรูปแบบของการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การปรับลดค่างวด การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ เป็นต้น ส่วนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ธนาคารจะยกระดับการให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการคืนรถจบหนี้ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้”
เดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส-ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ กล่าวเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขของมาตรการคืนรถจบหนี้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นลูกค้าตามสัญญาเช่าซื้อหรือจำนำทะเบียนรถยนต์ของธนาคารทิสโก ทั้งรถส่วนบุคคลและรถเพื่อการพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโควิด และมีสถานะไม่ค้างชำระเกิน 90 วัน ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 ซึ่งการพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ รวมทั้งข้อมูลและเอกสารประกอบ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนดได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2564
“ปกติแม้จะคืนรถให้กับสถาบันการเงินไปแล้ว อาจจะไม่ได้ทำให้ปัญหาจบลงในทันที เพราะหลังจากสถาบันการเงินนำรถไปประมูลขายทอดตลาด กรณีเกิดผลขาดทุนขึ้นก็ยังคงเป็นภาระของลูกหนี้ตามกฎหมาย และหากลูกหนี้ไม่สามารถจัดการได้ก็อาจส่งผลเสียต่อประวัติทางการเงินต่อไป ดังนั้นธนาคารจึงตั้งใจเข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้จริงๆ ผ่านโครงการพิเศษ ‘คืนรถจบหนี้’ ที่จะเน้นการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งถ้าลูกค้าผ่อนค่างวดไม่ไหวสามารถนำรถมาคืนได้เลย โดยหากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดธนาคารจะยกหนี้ส่วนที่เหลือให้ทั้งหมดโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีการฟ้องร้อง และระบุสถานะเป็นปิดบัญชี ซึ่งถือได้ว่าจบหนี้จริง โดยไม่มีภาระหนี้ผูกพันในระยะยาว และทำให้ในอนาคตหากลูกค้ามีความจำเป็นทางการเงินก็มีโอกาสกลับมาขอสินเชื่อใหม่ได้”
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีลูกค้าที่แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการ รวมถึงที่ได้คืนรถให้แก่ธนาคารแล้วกว่า 400 ราย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.tisco.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2633 6000 หรือ 0 2080 6000