×

โอกาสครั้งที่ 2 ของ ติโม แวร์เนอร์ บนเดิมพันราคาต่ำของสเปอร์ส

10.01.2024
  • LOADING...
Timo Werner

HIGHLIGHTS

  • ช่วงชีวิตในสแตมฟอร์ดบริดจ์เป็นไปอย่างยากลำบาก กองหน้าสายสปีดไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเล่นในอังกฤษได้ดีนัก และมีปัญหาในเรื่องของความมั่นใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะยามอยู่หน้าปากประตู
  • ครึ่งฤดูกาลผ่านมา แวร์เนอร์ได้โอกาสลงตัวจริงแค่ 8 นัด และทำได้เพียง 2 ประตู นั่นหมายถึงมีความเสี่ยงที่จะพลาดรายการใหญ่อย่างยูโร 2024
  • สิ่งที่น่าจับตามองคือ แอนจ์ ปอสเตโคกลู จะสามารถดึงศักยภาพที่มีในตัวของกองหน้าจอมอันตรายคนนี้ออกมาได้หรือไม่

ในระหว่างที่ตลาดการซื้อ-ขายผู้เล่นรอบฤดูหนาวยังนิ่งๆ เงียบๆ ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรจากสโมสรดังๆ มากนัก ทีมที่เดินหน้าจริงจังกว่าเพื่อนคือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

 

โดยล่าสุดได้เปิดตัว ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนีที่ขอยืมมาจากแอร์เบ ไลป์ซิก จนจบฤดูกาล พร้อมเงื่อนไขในการซื้อขาดด้วยค่าตัวเพียงแค่ 17 ล้านปอนด์หากทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ

 

การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์อยู่บ้างเมื่อคิดถึงช่วงเวลา 2 ฤดูกาลที่ศูนย์หน้าระดับหัวแถวของวงการฟุตบอลเยอรมนีล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับเชลซี หลังจากที่ตกลงย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นหนแรกโดยมีค่าตัวสูงถึง 45 ล้านปอนด์

 

สเปอร์สมองเห็นอะไรในการย้ายทีมครั้งนี้ และแวร์เนอร์จะดีพอที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองในลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลกได้หรือไม่?

 

Timo Werner

 

ข่าวการดึงตัวแวร์เนอร์มาร่วมทีมสเปอร์สถือเป็นข่าวที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้มีสัญญาณบ่งบอกอะไรที่ชัดเจน

 

เพียงแต่การคว้าตัวกองหน้าวัย 27 ปีมาร่วมทีมนั้นเป็นการตัดสินใจที่อยู่บนเหตุผลของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมที่ต้องการเสริมตัวผู้เล่นในแนวรุกที่มักจะประสบปัญหาขาดแคลนอยู่เสมอ

 

ที่ผ่านมากองหน้าสเปอร์สผลัดกันบาดเจ็บตลอด แทบไม่ได้อยู่รวมตัวกันครบ และในเดือนนี้ ซนฮึงมิน กัปตันทีม ก็ขอลาไปรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ในศึกเอเชียนคัพ ที่คาดว่าน่าจะกินระยะเวลาร่วมเดือน เพราะมีโอกาสลุ้นถึงแชมป์ได้เลยทีเดียว

 

แวร์เนอร์ ซึ่งแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในฤดูกาลนี้ เพราะได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้ไลป์ซิกเพียงแค่ 8 นัด ทำได้เพียง 2 ประตูในศึกบุนเดสลีกา แต่ก็ถือเป็นกองหน้าที่มีความอเนกประสงค์ สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยอุดรูรั่วในช่วง 1 เดือนนับจากนี้ และจะเป็นกำลังสำคัญที่จะสลับสับเปลี่ยนลงสนามกับกองหน้าคนอื่นในทีมได้เป็นอย่างดี

 

“ผมมีโอกาสได้คุยกับทางผู้จัดการทีม เป็นการพูดคุยที่ดีมาก เขาทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่าทำไมผมถึงควรมาร่วมทีมและผมต้องการความรู้สึกแบบไหนในการคุยกับผู้จัดการทีม ซึ่งรวมถึงในเรื่องของแท็กติกและสไตล์ สิ่งที่เขาต้องการจะเห็นจากผม สำหรับผมแล้ว ผมคิดได้ทันทีว่ามันจะต้องเป็นการเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่”

 

 

Perfect Blue

 

อย่างไรก็ดี ภาพลักษณ์ของแวร์เนอร์ในเวทีพรีเมียร์ลีกนั้นไม่เป็นที่น่าจดจำนัก

 

จากสถานะของกองหน้าอายุน้อยที่กำลังร้อนแรงสุดๆ ในบุนเดสลีกา แวร์เนอร์ตอบรับข้อเสนอจากเชลซี (มากกว่าลิเวอร์พูลที่ให้ความสนใจเหมือนกัน) เพื่อย้ายมาร่วมทีมในปี 2020 ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงในช่วงเวลานั้น

 

เพียงแต่ช่วงชีวิตในสแตมฟอร์ดบริดจ์เป็นไปอย่างยากลำบาก กองหน้าสายสปีดไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเล่นในอังกฤษได้ดีนัก และมีปัญหาในเรื่องของความมั่นใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะยามอยู่หน้าปากประตู

 

การพลาดโอกาสครั้งแล้วกับครั้งเล่าแทบทำให้ทุกคนนึกไม่ออกว่านี่คือกองหน้าที่ทำไป 78 ประตู จากการลงเล่น 127 นัดให้กับไลป์ซิก

 

เมื่อวัดจากค่าความคาดหวังประตู (Expected Goals หรือ xG) แล้ว แวร์เนอร์เป็นกองหน้าที่ทำผลงานได้ต่ำที่สุด โดยในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2020/21-2021/22 ค่า xG ของเขาอยู่ที่ 18.26 แต่ทำได้จริงๆ เพียงแค่ 10 ประตู

 

พูดง่ายๆ คือ ติดลบถึง -8.26 เลยทีเดียว ซึ่งเป็นค่าผลงานที่ต่ำกว่าที่ควรจะทำได้เกินไปมากสำหรับนักเตะในตำแหน่งกองหน้า

 

ไม่นับในเรื่องของเชิงแท็กติก แวร์เนอร์ซึ่งเป็นกองหน้าที่ใช้ความเร็วและชิงจังหวะกับกองหลังมักจะตกหลุมพรางกับดักล้ำหน้าบ่อยๆ ในเกมพรีเมียร์ลีก 56 นัด เขาถูกจับล้ำหน้ามากถึง 48 ครั้ง

 

นั่นทำให้แวร์เนอร์ค่อยๆ ดับแสงลงในพรีเมียร์ลีก และสุดท้ายตัดสินใจที่จะย้ายกลับเยอรมนีไปอยู่กับทีมเก่าไลป์ซิกอีกครั้ง

 

Timo Werner

 

ความเสี่ยงที่ไม่ยอมให้เกิด

 

เมื่อกลับมาเล่นให้ไลป์ซิก แวร์เนอร์เหมือนจะกลับมานึกออกว่าตัวเองคือใครอีกครั้ง โดยทำผลงานได้ดีประมาณหนึ่ง แม้จะไม่ร้อนแรงเท่าในช่วงก่อนย้ายไปพรีเมียร์ลีก

 

ถึงจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ส่งผลให้เขาพลาดการเล่นฟุตบอลโลก แต่จบฤดูกาล 2022/23 ผลงานอยู่ที่ 9 ประตู จากการลงสนามในบุนเดสลีกา 27 นัด

 

เพียงแต่ในฤดูกาลนี้สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง เกิดการแข่งขันภายในทีมที่สูง เพราะไลป์ซิกทุ่มเงินซื้อ โลอิส โอเพนดา มา และยังมี ยุสซุฟ โพลเซน และ เบนจามิน เซสโก ทำให้เขากลายสภาพเป็นตัวสำรองอดทนเสียมากกว่า

 

ครึ่งฤดูกาลผ่านมา แวร์เนอร์ได้โอกาสลงตัวจริงแค่ 8 นัด และทำได้เพียง 2 ประตู

 

นั่นหมายถึงมีความเสี่ยงที่จะพลาดรายการใหญ่อย่างยูโร 2024 ที่จะมีขึ้นในเยอรมนีช่วงกลางปีนี้ ซึ่งตัวเขาเองก็ถูกมองข้ามจากทีมชาติ โดยไม่ได้รับการเรียกตัวติดทีมมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีกลายแล้วด้วย

 

นี่คือแรงผลักดันหลักที่ทำให้แวร์เนอร์ต้องการย้ายทีมในช่วงตลาดฤดูหนาว เพราะเขาไม่ต้องการจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้อีกแล้ว

 

Timo Werner

 

โอกาสครั้งที่ 2 ที่คาดไม่ถึง

 

ข้อเสนอจากสเปอร์สที่เข้ามาจึงเป็นทางออกฉุกเฉินที่ดีเกินคาดสำหรับแวร์เนอร์ โดยที่เชื่อว่าพวกเขาจะแลกเปลี่ยนในสิ่งที่เท่าเทียมกัน

 

สเปอร์สให้โอกาสและเวลาในการลงสนามที่สายฟ้าเยอรมันจะได้แก้ตัวในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ในขณะที่แวร์เนอร์จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในแนวรุกของทีมจากลอนดอนเช่นกัน เพราะสามารถโยกย้ายสลับไปเล่นตรงไหนก็ได้ในแดนบน แม้ว่าตำแหน่งที่น่าจะดีที่สุดคือทางด้านซ้าย ซึ่งว่างชั่วคราวพอดี เพราะกัปตัน ‘Super Sonny’ ติดภารกิจทีมชาติ

 

สิ่งที่น่าจับตามองคือ แอนจ์ ปอสเตโคกลู จะสามารถดึงศักยภาพที่มีในตัวของกองหน้าจอมอันตรายคนนี้ออกมาได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมากุนซือชาวออสเตรเลียพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นโค้ชที่เก่งกาจในเรื่องของการดูแลลูกทีม สามารถหาทางดึงศักยภาพที่มีในตัวทั้งที่เห็นได้ชัดเจนหรือซ่อนเร้นอยู่ออกมา

 

นักเตะสเปอร์สหลายคนกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เช่น คริสเตียน โรเมโร, อีฟ บิสซูมา, ริชาร์ลิสัน หรือ เบน เดวีส รวมถึงน้องใหม่ที่มาปุ๊บกลายเป็นคีย์แมนทันทีอย่าง เจมส์ แมดดิสัน ที่หากไม่โชคร้ายบาดเจ็บ สเปอร์สอาจจะติดลมบนไปลุ้นพื้นที่หัวตารางอีกทีมแล้ว

 

ด้วยสไตล์ของสเปอร์สที่เล่นเกมรุกได้วูบวาบหลากหลาย น่าจะเหมาะกับนักเตะที่จมูกไวอย่างแวร์เนอร์ ที่หากจูนเรื่องของการหาตำแหน่งและเรื่องความมั่นใจในการจบสกอร์ได้ น่าจะมีส่วนช่วยทีมได้มากทีเดียว

 

ดีไม่ดีอาจขึ้นแท่นเป็นขวัญใจคนใหม่ของสเปอร์สด้วยก็ได้ ซึ่งจะเป็นการลบปมในใจของแวร์เนอร์ด้วยเช่นกัน

 

เพราะในช่วงโควิดที่นอกจากชีวิตจะมืดมนแล้ว การไม่เป็นที่ยอมรับและได้รับความรักจากแฟนบอลก็ส่งผลต่อหัวใจอย่างมาก

 

“ผมหวังว่าผมจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะเป็นได้ที่นี่ ผมสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า นั่นคือหนึ่งในจุดแข็งของผม”

 

โดยที่สำคัญ แวร์เนอร์ไม่ได้คิดแค่ตัวเอง แต่เขามองถึงเป้าหมายของทีมด้วย

 

“เป้าหมายของผมคือ การต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ในลีกให้ได้ หรือบางทีแชมป์รายการอื่นๆ ด้วย”

           

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X