อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังหลายคนใน TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในรูปคลิปวิดีโอสั้น ต่างโดนแบนคลิปที่เกี่ยวข้องกับคริปโตแม้จะเป็นเพียงคลิปให้ความรู้ โดยไม่มีสปอนเซอร์หรือมีเจตนาชี้ชวนให้มาซื้อขายคริปโตก็ตาม
สาเหตุดังกล่าวสืบเนื่องจากนโยบายใหม่ที่ TikTok ได้ประกาศออกมาว่าจะป้องกันผู้ใช้งานจากการโดนโฆษณาหรือชักชวนให้ไปเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง จนอาจนำไปสู่การขาดทุนได้
ทางสำนักข่าว CNBC ได้คุยกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์กว่า 11 ราย พบว่า คลิปที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านั้นลงต่างโดนติดเครื่องหมายบ้าง โดนแบนคลิปบ้าง แม้คลิปดังกล่าวจะไม่มีสปอนเซอร์ เป็นเพียงคลิปเพื่อให้ความรู้ก็ตาม
เรื่องนี้ทาง TikTok ได้ให้รายละเอียดและคำชี้แจงกับเหล่าอินฟูเอนเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังไม่มีช่องทางให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรง
นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ยังให้ข้อมูลว่า เขาไม่สามารถแม้กระทั่งใช้คำว่า Binance, DEX หรือคำเฉพาะอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ในวิดีโอได้เลย เพราะจะทำให้คลิปเหล่านั้นโดนลบไปทันที
โจชัว ธีลเลนส์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังด้านคริปโตใน TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 430,000 ราย กล่าวว่า เขาถูกลบวิดีโอใน TikTok ไปถึง 8 คลิปแล้ว และยังโดนแบนการใช้งานบัญชีไปกว่า 48 ชั่วโมง ทำให้เขาไม่สามารถลงวิดีโอใดๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งการทำเช่นนี้อาจนำไปสู่ค่าเสียโอกาสของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้
เท่านั้นยังไม่พอ เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโตกล่าวว่า ผู้ติดตามและยอดวิวมีการเติบโตที่ช้าลง ซึ่งต่างสันนิษฐานกันว่าทางระบบอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มน่าจะทำการปิดกั้นการเข้าถึง และมีความเป็นไปได้ที่จะไม่แนะนำวิดีโอตรงฟีด ‘For You’ ไปให้กับผู้ใช้งาน
จากกรณีดังกล่าวทำให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโตบางรายที่โดนระงับคลิปที่มีเนื้อหาที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลรู้สึกถึงความไม่เป็นอิสระในการทำเนื้อหาเหมือนอย่างแพลตฟอร์มอื่นๆ จึงเริ่มย้ายไปทำคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง YouTube, Twitter, Instagram หรือแอปพลิเคชันสื่อสารอย่าง Discord บ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ยังใช้งาน TikTok อยู่ก็มีการปรับตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมีการนำชื่อเรียกรูปแบบอื่นมาแทนการเรียกคริปโตเพื่อป้องกันการโดนแบน เช่น ใช้คำว่า Girlfriend (แฟนสาว) แทนเหรียญคริปโต Ethereum หรืออย่างบางรายก็มีการนำเรื่องตลกมาเล่าแทนการสื่อถึงคริปโต
อ้างอิง: