สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ทันทีที่แอปพลิเคชันชั้นนำอย่าง TikTok และ Instagram ออกมาประกาศขยายการบริการ โดย Instagram ตั้งเป้ารุกบริการด้านคลิปวิดีโอ ขณะที่ TikTok จะขยายคลิปวิดีโอให้มีความยาวมากขึ้นเหมือนคลิปที่เผยแพร่ใน YouTube ก็เท่ากับเป็นการประกาศเข้าร่วมสงครามสตรีมมิง ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Disney, Universal, Warner และ Discovery กับผู้ให้บริการที่มาจากฝั่งโซเชียลมีเดียและสายเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง Netflix และ Amazon ที่พากันแข่งขันเผยแพร่คอนเทนต์ภาพยนตร์ ละคร ข่าว และกีฬา
ยิ่งเมื่อเส้นแบ่งความแตกต่างระหว่างสื่อช่องทางต่างๆ เริ่มไม่ชัดเจน คือ การที่สื่อใหญ่ก้าวเข้ามายังโลกอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งทำให้สงครามสตรีมมิงทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนับต่อจากนี้ โดยตัวตัดสินสำคัญคือความสนใจจากผู้ชม ที่จะช่วยเรียกรายได้จากการตลาดและค่าโฆษณาเข้ามาอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าหลายสื่ออาจหลีกเลี่ยงการแข่งขัน ด้วยการหันไปจับมือร่วมกันแทน เช่น กรณีของ Amazon ที่กำลังเจรจาเข้าซื้อค่ายสตูดิโอ MGM มูลค่า 8,500 ล้านดอลลาร์ หรือกรณีของ WarnerMedia รวมกับ Discovery
ขณะเดียวกันก็ต้องจับตามองต่อไปว่าหน่วยงานรัฐอย่างคณะกรรมาธิการการค้า หรือ Federal Trade Commission (FTC) จะมีท่าทีและมาตรการอย่างไรกับธุรกิจคอนเทนต์และสตรีมมิง รวมถึงการควบรวมกิจการของสื่อต่างๆ เหล่านี้
อ้างอิง: