TikTok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียภายใต้บริษัท ByteDance Ltd. ตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่ายอดขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มของตัวเองทั่วโลก สู่ระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 4 เท่าตัวจากปัจจุบัน โดยแรงหนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป้าหมายที่วางไว้ของ TikTok หากทำได้จริงจะเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วจากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 4.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นยอดขายสินค้าผ่าน TikTok Shop โดยตลาดสำคัญของ TikTok ในปัจจุบันคืออินโดนีเซีย ซึ่งอินฟลูเอ็นเซอร์หลายรายเลือกจะขายสินค้า เช่น กางเกงยีนส์หรือลิปสติก ผ่านการไลฟ์บนแพลตฟอร์ม
TikTok ยังได้พยายามที่จะขยายตลาดในสหรัฐฯ และยุโรปด้วยเช่นกัน แม้ว่าตลาดเหล่านี้จะมีสัดส่วนไม่มากจากเป้าหมาย 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน TikTok ซึ่งถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก พยายามที่จะกระโดดเข้ามาชิงเค้กของตลาดอีคอมเมิร์ซมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่แหล่งรายได้หลักอย่างโฆษณาส่งสัญญาณว่าจะถูกกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สำหรับ TikTok Shop นั้นเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้าได้ในระหว่างที่กำลังเลื่อนดูคลิปต่างๆ ภายในแอปพลิเคชัน โดยหวังว่าผู้บริโภคจะใช้แพลตฟอร์มของตัวเองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจาก Amazon.com และ Shopee ด้วยโมเดลดังกล่าวช่วยให้ TikTok สามารถชิงส่วนแบ่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคจาก Alibaba Group Holding และ JD.com มาได้ในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างการล็อกดาวน์โควิดในจีน
อย่างไรก็ตาม TikTok Shop ยังคงมีสัดส่วนไม่มากนักต่อรายได้ของ ByteDance ที่ทำได้ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ และเมื่อเทียบกับ Sea Group ซึ่งมียอดขายสินค้าผ่านออนไลน์รวม 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน ก็ยังค่อนข้างห่างไกล
ข้อมูลในปี 2021 และ 2022 ระบุว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้งานใช้เวลาบนแพลตฟอร์มมากที่สุดในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 22.8 ชั่วโมงต่อเดือน และเพิ่มเป็น 28.7 ชั่วโมงต่อเดือน ตามลำดับ ส่วนรองลงมาคือ Facebook เฉลี่ย 16.8 ชั่วโมงต่อเดือน และลดลงมาเหลือ 15.5 ชั่วโมงต่อเดือน ในปี 2022
อ้างอิง: