เรือโนอาห์และเหล่าสรรพสัตว์ในโชว์ของ Thom Browne คอลเล็กชัน Fall/Winter 2020

สำหรับแฟชั่นโชว์ของ Thom Browne การเพิ่มเรื่องเล่าในแต่ละคอลเล็กชันนอกเหนือจากการทำสูทอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ยังมาให้เล่นบ่อยๆ ในคอลเล็กชันฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนี้ เราจะได้เห็นเหล่าสิงสาราสัตว์บนหิมะปลอมที่อ้างอิงมาจากเรื่องเล่า ‘เรือโนอาห์ (Noah’s Ark)’ อีกหนึ่งแบรนด์ที่นำเรื่องเล่าเชิง Dystopia จากพระคัมภีร์มาไว้ในคอลเล็กชันในน้ำเสียงที่สดใสขึ้น

ในหนังสือพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ซึ่งกล่าวถึงการสร้างเรือลำหนึ่งตามพระบัญชาของพระเจ้า เพื่อช่วยให้โนอาห์และครอบครัว พร้อมเหล่าสัตว์ทั้งหลายชนิดละ 1 คู่ (ตัวผู้ 1 ตัว และตัวเมีย 1 ตัว) เมื่อโนอาห์ประกอบเรือเสร็จ พระเจ้า ก็ได้ลงโทษสิ่งมีชีวิตด้วยการบันดาลให้ฝนตกหนักยาว 40 วัน เกิดน้ำท่วมแผ่นดินเป็นเวลานานถึง 150 วัน ผู้คนและสิ่งมีชีวิตทั่วโลกตายจนหมดสิ้น เหลือแต่สิ่งมีชีวิตบนเรือของโนอาห์ จากนั้นพระเจ้าจึงทรงกระทำให้น้ำลดลงใช้เวลาอีก 150 วัน แผ่นดินจึงจะกลับมาแห้งดังเดิม หลังจากนั้นพระเจ้าจึงประทานสายรุ้งเพื่อเป็นคำสัญญาว่า จะไม่ให้เกิดน้ำท่วมล้างเผ่าพันธุ์แบบนี้อีก

นั่นคือสิ่งที่เราจะได้เห็นจากโชว์ของ Thom Browne ที่เปิดด้วยนายแบบสวมหัวรูปยีราฟขนาดใหญ่ในสูทโทนสีขาว แดง และกรมท่า เป็นสัตว์ชนิดแรกที่จะได้เดินขึ้นเรือลำนั้นเพื่อเอาชีวิตรอด ตามมาด้วย แรด เก้ง หมู ม้า ช้าง ฮิปโปฯ ต่อมาเราจะได้เห็นคู่ของสัตว์ชนิดต่างๆ เดินออกมาทีละคู่ในลุคที่เหมือนกันในทุกรายละเอียด ในเสื้อผ้าที่โดดเด่นจากแบรนด์ทั้งโค้ต กางเกง สูท ผ้าพันคอ ลายพิมพ์ ไปจนถึงกระเป๋ารูปสัตว์แบบดับเบิล ที่พออนุมานได้ว่าเป็นคู่กันตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้สืบเผ่าพันธุ์ต่อไป

ส่วนช่วงฟินาเล่ของโชว์ที่แต่ละคู่ได้สลับคู่กันจนเราแยกไม่ออกว่าใครตัวผู้ ใครตัวเมีย เป็นอีกครั้งที่แบรนด์ได้ซ่อนความหมายถึงการขีดฆ่าขนบธรรมเนียมในเรื่องเพศ ที่ไม่ได้มีแค่ตัวผู้ตัวเมียที่มีมาแต่เดิม…เป็นสายรุ้ง เป็นคำสัญญา เป็นของขวัญในโลก Post-Apocalype ที่พระเจ้าไม่เคยผิดคำ