วันนี้ (15 มีนาคม) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่พยายามกดดันเพื่อเข้าควบคุมตัว หรือแม้กระทั่งเจรจาเกลี่ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวนั้น เจ้าหน้าที่มีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เบื้องต้นสถานการณ์มีความสุ่มเสียงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีเครื่องกระสุนที่พร้อมตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าในการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ในการควบคุมได้มากขึ้น และเปิดช่องว่างที่ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถกดดันให้ผู้ก่อเหตุอยู่ในบริเวณชั้นสองของห้องพัก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้โดรนบินเข้าไปตรวจการด้านใน
พล.ต.ท. ธิติกล่าวต่อว่า ในขณะนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการใช้ยุทธวิธีจู่โจม ซึ่งต้องประเมินว่าอาการป่วยของผู้ก่อเหตุจะต้องใช้วิธีใด หากประเมินแล้วจำเป็นต้องใช้กระสุนจริง เจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานทันที ส่วนการเจรจาสื่อสารนั้นไม่สามารถจะสื่อสารแบบคนปกติทั่วไปได้
ส่วนยุทธวิธีที่ให้เพื่อนร่วมงานมาร้องเพลงให้ฟังและมีการจู่โจมควบคู่ไปด้วยนั้น เป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจ แต่จากการปฏิบัติแล้วทางผู้ก่อเหตุยังมีการตอบโต้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องถอนกำลังมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ส่วนอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าเป็นปืนชนิดลูกโม่ที่ใช้ตอบโต้