ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระ กล่าวเปิดงานสัมมนา ‘คนจนในบริบทที่เปลี่ยนไปในสังคมปัจจุบัน’ ที่จัดโดยสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) กล่าวถึงเรื่องของความจนว่า วาทกรรมคนจนมีการผันแปรสถานะของมันมาตลอด เริ่มต้นช่วงหนึ่งสังคมไทยสนใจคนจนมาก มีสมัชชาคนจน และสมัชชาคนจนค่อนข้างมีพลังมาก
“ข้อสังเกตคือวาทกรรมนี้อ่อนแรงลงไป แต่ไม่ใช่หมายความว่าปัญหาคนจนหายไป (อาจจะรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ) เพียงแต่ว่าวาทกรรมคนจนมุ่งไปสู่ชนบทและเกษตรกร
“ส่วนคนจนเมืองดูเหมือนว่าได้รับความสนใจเหลียวแลน้อยลง และถูกขับไสค่อนข้างมากจากการปรับปรุงเมืองเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
“เมื่อเร็วๆ นี้ ผมให้ข้อสังเกตกับตัวเองว่า ผมได้ลดฐานะจากชนชั้นกลางมาเป็นชนชั้นล่าง โดยสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเองว่าจะต้องคำนวณค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายมากขึ้น จากที่ทำอะไรตามใจชอบกลายเป็นทำอะไรต้องระวังมากขึ้น
“จากการสังเกตส่วนตัวโดยการคุยกับคนขับรถแท็กซี่พบว่า คนจนมีภาวะสับสนทางความคิดสูง เขาไม่ค่อยบ่นว่าเขายากจน ผมคิดว่าคงจนจนชิน แต่มีความหวั่นไหวว่าอนาคตจะทำอย่างไรดี เช่น จะเลิกขับรถแล้วกลับบ้านที่ต่างจังหวัดดีหรือไม่ ถ้ากลับบ้านแล้วจะทำอย่างไรต่อไป สิ่งนี้สะท้อนภาวะทางจิตใจของคนจนว่าค่อนข้างสับสนพอสมควร
“เช่นเดียวกับชนชั้นกลาง ผมคิดว่ามีลักษณะขาดความมั่นใจในอนาคตของตัวเอง เขามีความรู้สึกว่าสถานะอาชีพและรายได้กำลังมีปัญหา ผมคิดว่าชนชั้นกลางโดยส่วนใหญ่กำลังเลื่อนสถานะลง
“ความสับสนอันนี้ที่เกิดขึ้นทั้งคนจน ชนชั้นกลาง บางทีอาจรวมไปถึงระดับผู้นำ อย่าง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แกก็สับสนทางความคิดเหมือนกันว่าโรดแมปที่แกตั้งก็ยังสับสนอยู่ว่าจะเลือกตั้งช่วงไหน ความสับสนจึงเป็นสภาวะปกติในขณะนี้ของสังคมไทย
“จากการสังเกตการบริหารงานของรัฐบาลมาสามปี ผมคิดว่ามุมมองของรัฐบาล กระบวนทรรศน์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ. ประยุทธ์ จะไม่สนใจปัญหาคนจนเท่าที่ควร
“พล.อ. ประยุทธ์ เข้าใจปัญหาคนจนไม่พอเพียง ขาดการบูรณาการมิติทางอำนาจ สิทธิ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนจน ท่านพูดเกี่ยวกับคนจนเยอะ แต่เป็นการพูดถึงโดยไม่ทั่วถึง
“ที่พูดถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงในสังคม นอกจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทางการเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ข้อสังเกตสั้นๆ คือ การเมืองไทยภายใต้การนำของ คสช. ได้ถอยห่างออกจากการเคารพประชาชน และถอยห่างออกจากความตั้งใจที่จะกระจายอำนาจให้ประชาชนซึ่งเคยเป็นแนวความคิดทางการเมืองไทยในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา
“และนี่คือข้อสังเกตใหญ่ 2 ประการที่มีต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์”