ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ขึ้นกล่าวสปีชในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ในหัวข้อ Unlocking Thailand’s Energy Transition ปลดล็อกประเทศไทยสู่ยุคพลังงานยั่งยืน โดยระบุว่า การปรับเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำจะต้องปลดล็อกภาคพลังงานให้ได้
แม้รัฐบาลไทยหลายรัฐบาลจะพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างจริงจัง แต่เงื่อนไขสำคัญของไทยที่ยังไม่ปลดล็อกคือ ‘ไทยต้องมีพลังงานสะอาด’
เป้าหมายไทย ‘ช้ากว่า’ เป้าหมายโลก
ดร.สมเกียรติ ชี้ว่า เป้าหมายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของไทยดูเหมือนจะช้ากว่าเป้าหมายของนักลงทุนโดยทั่วไป โดยเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตั้งไว้ไกลมาก ไกลถึงปี 2065 และมีเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 ซึ่งช้ากว่าประเทศส่วนใหญ่ในประชาคมโลก โดยเฉพาะแถบยุโรป รวมถึงอีกหลายประเทศในอาเซียน ขณะที่นักลงทุนต้องการใช้พลังงานสะอาดภายในระยะเวลาที่เร็วกว่านั้น
เป้าไฟฟ้า ‘ช้ากว่า’ เป้าประเทศ
ดร.สมเกียรติ อธิบายว่า ถ้าไปดูแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (Power Development Plan: PDP) ปี 2024 จะพบว่า ยากที่จะทำได้ เพราะไม่มีการปฏิรูปตลาดไฟฟ้าเลย ถ้าไม่มีการปฏิรูปไฟฟ้าก็จะลดคาร์บอนได้ยาก โดยเกือบครึ่งหนึ่งของการปล่อยคาร์บอนในไทยมาจากสาขาภาคผลิตพลังงาน (47%) บางส่วนมาจากภาคขนส่ง (22%) ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
วิธีการลดคาร์บอนส่วนใหญ่ของประเทศต่างๆ คือ การเปลี่ยนทุกอย่างให้ใช้ระบบไฟฟ้า แล้วค่อยไปจัดการส่วนที่ไม่สามารถไปแปลงเป็นไฟฟ้าได้ ถ้าไทยต้องการบรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 ไทยต้องมีไฟฟ้าสะอาดราว 74% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก และยากที่จะเป็นไปได้หากไทยไม่มีการปฏิรูปไฟฟ้า นอกจากราคาพลังงานจะสูงแล้ว ต้นทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยก็จะสู้ประเทศอื่นๆ ไม่ได้อีกด้วย
ถ้าไม่ปฏิรูปไฟฟ้า เราจะพากันตายหมด
ดร.สมเกียรติ ยังระบุอีกว่า ถ้าเราดูร่างแผน PDP 2024 จะพบว่า 1. ไทยยังคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเกินจริงมาตลอด 28 ปี ทำให้จ่ายค่าไฟให้โรงไฟฟ้าที่ไม่เดินเครื่องมา 16 ปี โดยที่ไทยยังไม่เคยทำแผนอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง ทำให้มีไฟฟ้าสำรองเกิน 30% ซึ่งปกติอยู่ที่ราว 15% ก็เพียงพอแล้ว นี่คือสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าของไทยดูมั่นคง แต่ทำลายความมั่งคั่ง และต่อไปจะทำลายความยั่งยืนด้วย
- แผนดังกล่าวประเมินพลังงานสะอาดต่ำเกินไป เพราะพลังงานสะอาดโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถมีต้นทุนลดลงได้อีก 90% และมีแนวโน้มจะลดต้นทุนลงได้อีกในอนาคต เช่น รัฐบาลจีนที่อุดหนุดการผลิตแผงโซลาร์จนทำให้มีราคาถูก ยิ่งผลิตเยอะก็ยิ่งราคาถูก และแบตเตอรี่ก็มีแนวโน้มที่จะราคาถูกลงด้วยเช่นกัน
- โครงสร้างตลาดไฟฟ้าของไทยยึดติดกับระบบผู้ซื้อรายเดียว โดยมีผู้ผลิตรายใหญ่คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กับผู้ผลิตที่ต้องขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งระบบนี้จะอยู่กับไทยต่อไปอีก 13 ปีข้างหน้า ดร.สมเกียรติ เน้นย้ำว่า ถ้าเรายังเป็นเช่นนี้ต่อไปเราก็จะไม่มั่นคง ไม่มั่งคั่ง และไม่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ไทยมีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกในช่วง 12 ปี (2028-2036) จะยิ่งทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าใหญ่เกินกว่าความต้องการการใช้ ไฟฟ้ามีราคาแพง และเมื่อไทยสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซที่ต้องใช้ต่อไปอีกระยะยาว ก็แปลว่าช่องว่างของพลังงานทางเลือกที่จะเข้ามาสู่ระบบก็จะยิ่งลดแคบลง และอาจก่อให้เกิดความไม่ยั่งยืนทางพลังงาน
ปรับทิศทางไฟฟ้าไทย เดินให้ถูกทาง
สิ่งสำคัญคือคนไทยต้องรู้ว่าเราเดินต่อไปแบบนี้ไม่ได้ การปล่อยให้ผู้ขายไฟฟ้ามากำหนดอนาคตของประเทศไทยบนต้นทุนของประชาชนและธุรกิจต่างๆ ไม่สมควรเป็นสิ่งที่เรายอมรับอีกต่อไป
โดย ดร.สมเกียรติ เสนอแนะทางออกเพื่อปลดล็อกและปรับทิศทางไฟฟ้าไทย 4 เรื่องใหญ่ๆ คือ
- ปรับคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสม โดยคาดการณ์ GDP ให้สมจริง และเร่งแผนอนุรักษ์พลังงาน
- ใช้พลังงานสะอาดเต็มศักยภาพ โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้โซลาร์และแบตเตอรี่ รวมถึงพัฒนาระบบไมโครกริด-สมาร์ทกริด และแก้กฎระเบียบต่างๆ ในการติดตั้งแผงโซลาร์
- ต้องเปิดเสรีตลาดซื้อขายไฟฟ้า ใช้ระบบ Net Metering ที่ช่วยคำนวณค่าไฟฟ้าและหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ตามจริง จากการผลิตไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์หักลบกับไฟที่ใช้จากการไฟฟ้า อีกทั้งเมื่อติดแผงโซลาร์และผลิตไฟฟ้าเองได้ เวลาขายกลับต้องได้ราคาดี และเปิดเสรีซื้อขายไฟฟ้าได้โดยตรง
- ช่วยรัฐวิสาหกิจไฟฟ้า หาโมเดลธุรกิจใหม่ โดยออกแบบให้เขากลายเป็น ‘ผู้บริการรับ-ส่งไฟฟ้า’ ไปยังแหล่งที่ต้องการใช้ไฟฟ้า โดยให้คำนวณค่าขนส่งที่เหมาะสม และสามารถต่อยอดให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าของอาเซียนได้
นี่คือโฉมหน้าใหม่ โอกาสใหม่ ที่ไทยต้องปลดล็อก เพื่อให้เศรษฐกิจของเราเดินหน้าต่อไปได้
🔥Rerun Ticket โอกาสสุดท้ายของงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024🔥
ซื้อบัตรรับชมออนไลน์สุดคุ้ม! ราคาพิเศษเพียง 990.- https://bit.ly/tsef2024UDRerunVT
🎟️เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 – 18 พฤษภาคม 2568
⚡เปิดให้เข้ารับชมนานถึง 6 เดือนเต็ม!
⚡พร้อมรับสรุปเนื้อหา Key Takeaway ทุกหัวข้อ
⚡ชมออนไลน์สะดวกจากเว็บไซต์ อยู่ที่ไหนก็ดูได้
⚡เก็บครบประเด็นเศรษฐกิจแห่งอนาคต 3 วันเต็ม กว่า 30 เซสชัน
⚡ ฟังผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจากทุกแวดวงของไทย เศรษฐกิจ / ภูมิรัฐศาสตร์ / AI / EV