นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักร เปิดฉากเยือนจีนเป็นเวลา 3 วันเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) โดยเริ่มจากการหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงที่กรุงปักกิ่ง โดย 2 ฝ่ายหวังกระชับความร่วมมือด้านการค้าระดับทวิภาคีภายหลังจากที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือ Brexit แล้ว
ผู้นำอังกฤษและจีนยังผลักดันการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีในอนาคตด้วย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างจัดตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินทบทวนและพิจารณาขยายความร่วมมือเชิงพาณิชย์ระหว่าง 2 ประเทศ
ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า จีนได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดตลาดรองรับธุรกิจบริการทางการเงินจากสหราชอาณาจักรมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัย โดยจะมีการประกาศรายละเอียดของข้อตกลงใหม่ๆ ให้ทราบภายในไม่กี่วันข้างหน้า
นายกฯ เมย์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า “สหราชอาณาจักรและจีนเป็นหุ้นส่วนระดับโลกในระยะยาว จีนเป็นประเทศที่เราต้องการทำข้อตกลงการค้าด้วย โดย 2 ฝ่ายจะร่างแผนงานความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันต่อไป”
ขณะที่หลี่เค่อเฉียงกล่าวว่า “การเดินทางเยือนของนายกฯ เมย์ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอังกฤษใน ‘ยุคทอง’ และจะนำมาซึ่งความสำเร็จใหม่ๆ มากมาย”
สื่อต่างประเทศมองว่า การที่นายกฯ เมย์นำคณะนักธุรกิจเยือนจีนครั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลต้องการผลักดันนโยบายการค้าทั่วโลกให้เกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU ในปีหน้า เพราะในเวลานี้สหราชอาณาจักรยังไม่สามารถลงนามในข้อตกลงระดับรัฐกับประเทศอื่นๆ ที่อยู่นอก EU ได้ จนกว่าจะสิ้นสุดการเป็นสมาชิกเสียก่อน และการจะบังคับใช้ข้อตกลงกับประเทศอื่นๆ ได้ ก็ต้องรอไปจนถึงปี 2021 เป็นอย่างน้อย
เมย์เปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างการเยือนจีนครั้งนี้ ผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำของอังกฤษจะลงนามในสัญญาความร่วมมือกับบริษัทจีนคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านปอนด์
อ้างอิง: