วันนี้ (25 มกราคม) ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะที่ 2 มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ที่ร้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV
ที่ระบุว่า สปน. และ ITV ต่างมีหน้าที่จะต้องชำระหนี้ให้แก่กันและกันในจำนวนเงินเท่ากันคือ 2,890.35 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักกลบลบหนี้กันแล้ว ต่างฝ่ายจึงไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่กันและกัน โดยศาลปกครองสูงสุดให้เหตุผลว่า คำอุทธรณ์ของ สปน. เป็นเพียงการโต้แย้งดุลพินิจในการวินิจฉัยรับฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในสำนวนของคณะอนุญาโตตุลาการ และโต้แย้งเหตุผลในการวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในข้อกฎหมายและข้อสัญญาระหว่าง สปน. กับ ITV เท่านั้น
ซึ่งไม่ใช่กรณีที่เกี่ยวกับการยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาด จะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 และคณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดว่า สปน. และ ITV ต่างไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่กันและกัน ซึ่งเป็นอำนาจของคณะอนุญาโตตุลาการในเรื่องดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานและการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทตามกฎหมาย
จึงไม่ใช่เหตุที่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนการพิจารณาคดีนี้ และมีคำสั่งยกคำฟ้องของ สปน.
สำหรับข้อพิพาทดังกล่าว เป็นเรื่องของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่มีกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ UHF (สัญญาเข้าร่วมงานฯ) เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2550