หากใครกำลังสิ้งหวัง หมดกำลังใจ และเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ทำไมเราถึงไม่มีความสุขในชีวิต’ มิตรภาพอันสวยงามที่ถักทอจากเรื่องแย่ๆ ของ ฟิลิปและเดลล์ จากเรื่อง The Upside อาจทำให้คุณได้พบคำตอบบางอย่างหลังเดินออกจากโรงภาพยนตร์
The Upside คือภาพยนตร์แนวดราม่า-คอเมดี้ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส The Intouchables โดยได้ นีล เบอร์เกอร์ มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับ และได้นักแสดงสุดฮา เควิน ฮาร์ท (Jumanji: Welcome to the Jungle), ไบรอัน แครนสตัน ที่สะกดคนดูด้วยการแสดงทรงพลังในซีรีส์ Breaking Bad และนักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง นิโคล คิดแมน มาเป็นนักแสดงนำ และสามารถทำรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกมากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ
The Upside ได้หยิบยกเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงของ ฟิลิป มหาเศรษฐีผู้ประสบอุบัติเหตุจนพิการครึ่งตัว และต้องหาคนมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนเขาได้พบกับ เดลล์ ชายผิวสีที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘ผู้พยุงชีพ’ คืออะไร แต่ฟิลิปกลับเลือกเขาให้มารับหน้าที่นี้ทั้งที่ไม่มีใครเห็นด้วย และการใช้ชีวิตร่วมกันของคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว กลับกลายเป็นการเติมเต็มจิตใจซึ่งกันและกัน
สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกคือ การได้เห็นนักแสดงตลกอย่าง เควิน ฮาร์ท ในบทบาทของ เดลล์ ตัวละครที่ดูภายนอกเป็นคนตลก แต่ชีวิตของเขากลับไม่ตลกเอาเสียเลย
โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครที่เคยใช้ชีวิตในคุกอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า ก็สามารถส่งผ่านท่าทาง สีหน้า และอารมณ์ของ เควิน ฮาร์ท ออกมาได้อย่างทรงพลัง จนเราลืมภาพบ้าๆ บอๆ ที่เขาเคยแสดงมาก่อนหน้านี้ไปเลย
รวมทั้ง ไบรอัน แครนสตัน ที่เราขอยกให้เขาเป็นเจ้าแห่งการแสดงอารมณ์จมทุกข์ เก็บงำเรื่องราวบางอย่างจนปิดตัวเองออกจากรอบข้าง ซึ่งในบท ฟิลิป มหาเศรษฐีที่เคยมีพร้อมทุกอย่าง เขาก็สามารถแสดงทุกอารมณ์ออกมาได้อย่างไร้ที่ติอีกเช่นเคย
ความพิเศษของภาพยนตร์ทุกเรื่องที่หยิบยกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง (Based on True Story) มาถ่ายทอดบนจอภาพยนตร์ คือความรู้สึกที่ต่างจากการดูภาพยนตร์ตามปกติ ถึงแม้ The Upside อาจถูกเสริมเติมแต่งและบิดเบือนความจริงไปบ้าง เพื่อทำให้เรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น แต่หัวใจหลักของมันยังคงมาจากเหตุการณ์จริง มาจากบุคคลที่มีตัวตน มีชีวิตอยู่จริงๆ ไม่ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากปลายปากกาหรือจินตนาการ มันจึงทำให้เราประทับใจในมิตรภาพของเดลล์และฟิลิป และทำให้ตัวเราเองค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับพวกเขาทั้งสองคน
ตลอด 2 ชั่วโมงที่เราได้ติดตามชีวิตของเดลล์และฟิลิป เรื่องราวของพวกเขาได้สะท้อนให้เราเห็นประเด็นที่น่าสนใจว่า ไม่มีใครที่มีเรื่องราวแย่ๆ มากไปกว่าคนอื่น เพราะเราทุกคนต่างมีความทุกข์และอดีตที่ไม่อยากจดจำด้วยกันทั้งนั้น เมื่อยอมรับได้ว่าเราเองไม่ใช่คนเดียวที่ต้องแบกรับความทุกข์นี้ สิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงแค่เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
อย่างเช่นที่ ฟิลิปและเดลล์ ที่เคยซึมเศร้าอยู่ในโลกแห่งความทุกข์ คิดว่าชีวิตตัวเองเลวร้ายที่สุด แต่เมื่อพวกเขาค่อยๆ เปิดใจให้กัน แบ่งปันและรับฟังความทุกข์ที่อีกฝ่ายต้องเจอ ความ ‘เลวร้าย’ ของอีกฝ่ายกลับกลายเป็นพลังงานบวกทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าทุกคนล้วนแต่มีความทุกข์ที่เผชิญ
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจมจ่อมและปล่อยให้ทุกข์นั้นกัดกินจิตใจเราไปเรื่อยๆ หรือจะลุกขึ้นมายอมรับความจริงว่า นี่คือ ‘ความทุกข์’ แล้วเผชิญหน้าเท่าที่หัวใจแบกรับไหว และมองหาใครสักคนเพื่อแบ่งปันผ่านพ้นมันด้วยรอยยิ้มไปพร้อมๆ กัน
ตัวอย่างภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า