The Trunk ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่น่าจับตามองที่สุดตั้งแต่ประกาศสร้าง เพราะเป็นการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่าง กงยู นักแสดงชายลมหายใจแห่งภูมิภาค กับนักแสดงสาวเจ้าบทบาท ซอฮยอนจิน อีกทั้งยังได้ผู้กำกับ คิมกยูแท จาก Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo และเขียนบทโดย พัคอึนยอง จาก Hwarang: The Poet Warrior Youth ว่าด้วยการเจาะลึกถึงบาดแผลในใจ การเยียวยา และความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ผ่านการแต่งงานปลอมๆ ที่น่าจะสร้างความประทับใจได้ไม่ยาก หากแต่การเล่าเรื่องแบบหน่วงๆ กลับทำให้เสียอรรถรสไปพอสมควร
The Trunk ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันจากปี 2015 ว่าด้วยเรื่องราวของ ฮันจองวอน (กงยู) ชายที่ทุกข์ทรมานจากอดีตอันเจ็บปวดและการแต่งงานที่ล้มเหลว โดยที่ อีซอยอน (จองยุนฮา) ภรรยาเก่า ยังคงให้ความหวังว่าการหย่ากันครั้งนี้เป็นเพียงบททดสอบความสัมพันธ์ และให้เวลาเขาหนึ่งปีไปแต่งงานใหม่กับ โนอินจี (ซอฮยอนจิน) ภรรยาจำเป็นจากบริษัทรับจ้างแต่งงาน ที่มีระยะสัญญาตามแต่ลูกค้าต้องการ
อินจีเข้ามาทำงานนี้เพราะผิดหวังในความรัก เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวของเธอหนีหายไป ทำให้เธอสิ้นศรัทธาต่อการแต่งงาน และทำงานนี้ด้วยอารมณ์เย็นชาเป็นเวลากว่า 5 ปี ทุกครั้งเธอจะนำหีบใส่ของใบหนึ่งติดตัวไปด้วยเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน อินจีย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของจองวอน โดยที่ฝ่ายชายไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะรู้ดีว่าทุกอย่างถูกจัดเตรียมโดยซอยอนที่ตอนนี้ก็หนีไปแต่งงานใหม่กับเจ้าบ่าวจำเป็นเหมือนกัน
อินจีเริ่มเห็นความผิดปกติในความสัมพันธ์ครั้งเก่าของจองวอน โดยซอยอนตั้งใจจะควบคุมทุกอย่างเอาไว้ และให้เขาติดอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ในอดีตและต้องพึ่งพาเธอตลอดไป ทำให้อินจีค่อยๆ หาวิธีทำให้จองวอนมองเห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง ขณะเดียวกันจองวอนก็ค่อยๆ สะสางสิ่งติดค้างในใจของอินจี จนเกิดเป็นความรักท่ามกลางความหลอกลวง
ซอยอนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหมดความสำคัญ จึงทำทุกอย่างเพื่อเอาจองวอนกลับคืนมา ในจังหวะเดียวกับที่อินจีก็ถูกคุกคามจากชายจิตไม่ปกติที่คอยติดตามเธอ เรื่องไม่จบอยู่แค่นั้น เมื่อมีคนพบศพบุคคลปริศนาและในที่เกิดเหตุก็พบหีบที่มีลักษณะคล้ายกับของอินจี ทั้งความสัมพันธ์และคดีฆาตกรรมครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ต้องไปติดตามใน The Trunk
อ่านจากเรื่องย่อซีรีส์เรื่องนี้แทบจะไม่มีอะไรใหม่และพบได้ดาษดื่นในซีรีส์เกาหลีหรือละครไทยที่ว่าด้วยการแต่งงานหลอกๆ จนก่อเกิดเป็นความรัก แต่ความน่าสนใจของ The Trunk คือการเลือกโฟกัสไปที่บาดแผลในจิตใจและการใช้จิตวิทยาในความสัมพันธ์ของมนุษย์ มากกว่าอารมณ์ดราม่าตบตีแย่งผู้ชาย แล้วสอดแทรกด้วยบทสนทนาคมๆ ตีแผ่ชีวิตการแต่งงาน
ณ จุดนี้ทำให้มวลรวมของซีรีส์เต็มไปด้วยอารมณ์มืดมนผ่านชีวิตของจองวอน ผู้ต้องต่อสู้กับอดีตที่ตามหลอกหลอนจากความรุนแรงในครอบครัวและการทรยศของอดีตภรรยา จนกระทั่งเขาก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์กับอินจี ทำให้เขากล้าเผชิญหน้ากับปัญหาในอดีตและเห็นมุมมองใหม่ๆ ต่อชีวิตในปัจจุบัน
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ The Trunk คือ การใช้สัญลักษณ์ต่างๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่ชื่อเรื่องคือหีบ ตามความหมายของชื่อเรื่องเปรียบเสมือนกับสัมภาระที่ตัวละครแบกไว้ ไม่ว่าจะเป็นอดีต ความทรงจำ หรือความสัมพันธ์ที่พังทลาย และเป็นตัวแทนการกักขังทางอารมณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ หรือบ้านของจองวอนที่มีโครงสร้างซับซ้อนสีหม่นๆ เปรียบได้กับสำนึกและความคิดของตัวเขาเองที่วกวนซ่อนเร้นยากจะหลุดพ้น ส่วนโคมไฟก็เหมือนความเจ็บปวดในอดีตที่คอยทิ่มแทงทำร้ายตัวเขาไม่จบสิ้น สอดรับไปกับการจัดแสงและงานภาพก็ช่วยเสริมเรื่องราวให้มีความรู้สึกกึ่งจริงกึ่งฝัน โดยภายในบ้านมักดูมืดมนและอึดอัด ตัดกับแสงที่สาดส่องเป็นระยะๆ บ่งบอกถึงการหลบหนีหรือการไถ่บาป
ในด้านการแสดง กงยู ในบท ฮันจองวอน สามารถถ่ายทอดความเปราะบางของตัวละครได้เป็นอย่างดี ทั้งความรู้สึกผิดในอดีตและชีวิตที่ไม่น่าพอใจในปัจจุบัน จนกลายเป็นคนสับสน ติดอยู่ในวังวนแห่งการค้นหาความสุขใจในที่ที่ไม่ควรจะอยู่ ส่วนตัวละคร โนอินจี ของ ซอฮยอนจิน นับเป็นตัวละครที่ซับซ้อน เมื่อมองเผินๆ ดูเฉยเมย แต่เมื่อซีรีส์ดำเนินไป เธอก็เผยตัวตนที่มีทั้งความอดทนและเปราะบางในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งคนที่เด่นไม่แพ้กันคือ จองยุนฮา ในบท อีซอยอน อดีตภรรยาของจองวอน ซอยอนเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ชอบใช้เล่ห์เหลี่ยมและต้องการจะควบคุมตลอดเวลา เอาเข้าจริงก็มีเส้นบางๆ ระหว่างนางร้ายดาดๆ ในละครทั่วไป แต่ยุนฮาก็ทำออกมาได้ดีด้วยอารมณ์เย็นชาที่ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน
แม้จะเกิดจากความตั้งใจที่ดี แต่ The Trunk ก็ยังมีจุดอ่อนในบางจุด ที่เห็นชัดๆ เลยคือจังหวะการดำเนินเรื่องที่เนิบนาบซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ขณะเดียวกันก็อาจทดสอบความอดทนของผู้ชมไปด้วย รวมทั้งความไม่ต่อกันจากที่เนื้อหามีสองธีม แต่กลับไม่ประสานรวมกันระหว่างความระทึกขวัญเชิงจิตวิทยาและการวิจารณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม The Trunk ก็ถือเป็นผลงานที่น่าสนใจ ด้วยการหยิบยกประเด็นแมสๆ มาเลือกจุดโฟกัสใหม่ๆ ให้คนดูได้ขบคิด และสิ่งที่ต้องชื่นชมอีกอย่างก็คือทีมนักแสดง ทั้งกงยู จองยุนฮา และซอฮยอนจิน ที่ทำหน้าที่ออกมาได้ดีจนเด่นกว่าโครงเรื่องของซีรีส์นี้เลยทีเดียว