วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ดร.เพชร มโนปวิตร ที่ปรึกษาองค์การสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และเลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว หนึ่งในผู้บรรยายบนเวที ‘THE ROAD TO NET ZERO กางแผนไทยสู่เป้าหมาย NET ZERO’ ได้เสนอแนวทางที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยแนวทางที่มุ่งเน้น Nature Base Solution หรือการฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติที่มีอยู่แต่เดิมให้มีความสมบูรณ์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ดร.เพชรกล่าวว่า การจะไปสู่เป้าหมาย Net Zero ได้นั้นจะต้องเกิดการเปลี่ยนผ่านทุกระบบในสังคม ไม่ว่าจะเป็นระบบการคมนาคม ระบบการผลิตอาหาร หรือแม้แต่ระบบการเงิน และหนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การยกระดับการปกป้องพื้นที่ทางธรรมชาติมากขึ้น ทั้งทางบกและทางทะเล
หนึ่งในคีย์เวิร์ดสำคัญคือ Nature Base Solution หรือการแก้ปัญหาโดยกลับไปใช้ธรรมชาติเป็นพื้นฐาน เพราะถึงแม้เราจะไม่สามารถหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แต่เราก็มีตัวช่วยในเชิงระบบนิเวศอยู่ ทั้งภาคการป่าไม้ ภาคระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงประเด็นที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวอย่าง Blue Carbon หรือระบบนิเวศที่กักเก็บคาร์บอนไว้ในตัวเอง เช่น พื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่หญ้าทะเล ซึ่งกักเก็บคาร์บอนได้รวดเร็วกว่าทางบกหลายเท่า และประเทศไทยก็โชคดีที่เรามีระบบนิเวศเหล่านี้อยู่ตลอดชายฝั่ง
การฟื้นฟูระบบนิเวศกลับมา นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการดูดซับคาร์บอนแล้ว แต่ยังมีข้อดีในแง่อื่นๆ อีกมาก ยกตัวอย่างเช่น กรณีของปี 2010 ซึ่งประเทศไทยเผชิญกับเหตุอุณหภูมิน้ำทะเลในฝั่งอันดามันสูงผิดปกติ จนส่งผลให้เกิดปะการังฟอกขาว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ แนวปะการังที่เสื่อมโทรมนำไปสู่การสูญเสียแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ไทยต้องสูญเสียเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวทางทะเลซึ่งปกติแล้วเรากวาดรายได้ไปปีละ 8 หมื่นกว่าล้านบาท อีกทั้งแนวปะการังยังช่วยลดแรงปะทะจากคลื่น ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ด้วยเหตุนี้ Nature Base Solution จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราควรกลับมาทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้วเรามีระบบนิเวศที่เป็นตัวช่วยอย่างไรบ้าง และเราจะมีโอกาสฟื้นฟูระบบนิเวศเหล่านั้นกลับมาได้อย่างไร