ข่าวร้ายสำหรับทุกทีมในพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีกคือ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ กลับมาเข้าฟอร์ม ‘จอมมาร’ อีกครั้งแล้ว และเป็นการกลับมาในช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาลพอดี
เฉพาะแค่ 5 นัดหลังสุดรวมถึงเกมกับเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทำได้อีก 2 ประตู ตอนนี้กองหน้าจอมโหดทำไปทั้งสิ้น 13 ประตูด้วยกัน และหากนับรวมทั้งฤดูกาลตอนนี้ทำไปแล้วทั้งสิ้น 47 ประตู จากการลงสนาม 40 นัด
เชื่อขนมกินได้ว่าสถิติการทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกในหนึ่งฤดูกาลที่เคยเป็นของ แอนดี้ โคล และ อลัน เชียเรอร์ ที่ทำไว้ในฤดูกาล 1993/94 และ 1994/95 ซึ่งยืนยงมาเกือบ 30 ปี จะถูกทุบทำลายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
รวมถึงสถิติของ ไคลฟ์ อัลเลน อดีตหัวหอกระดับตำนานของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่เคยทำได้ถึง 49 ประตูตลอดฤดูกาลในฤดูกาล 1986/87 ก็อาจจะถูกทำลายด้วยเช่นกัน!
อย่างไรก็ดี ภายใต้ผลงานที่น่าสะพรึงของจอมมารฮาลันด์ในฤดูกาลนี้ มันมีเรื่องราวความลับเล็กๆ ที่มีส่วนช่วยทำให้ดาวยิงชาวนอร์เวย์สามารถระเบิดผลงานได้ในระดับนี้
View this post on Instagram
วิธีการดูแลแบบพิเศษ
หากใครติดตามผลงานของฮาลันด์มาตลอดจะพอทราบว่าหนึ่งในสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับกองหน้ารายนี้คือเรื่องของอาการบาดเจ็บที่มักจะเกิดขึ้นตลอดเวลา และบางครั้งก็ทำให้ต้องหายหน้าไปรักษาตัวเป็นเวลาพอสมควร
ย้อนกลับไปในฤดูกาลที่แล้วกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฮาลันด์พลาดการลงสนามมากถึง 16 นัดจากอาการบาดเจ็บมากมาย แต่มาในฤดูกาลนี้เขาพลาดการลงสนามเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำอย่างไรถึงสามารถทำให้ฮาลันด์แทบไม่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเลย
บางทีความลับอาจจะอยู่ที่ภาพที่เจ้าตัวโพสต์เองเมื่อสัปดาห์ก่อน กับภาพที่เขาถือขวดนม 2 ขวดพร้อมคำบรรยายว่า “ผมและเครื่องดื่มวิเศษส่วนตัว”
แต่ความจริงแล้วขวดนมนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลายๆ สิ่งที่ทุกฝ่ายช่วยกันหาทางดูแลสภาพร่างกายของฮาลันด์ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ซึ่งก็รวมถึง ‘ลาซานญ่า’ อาหารจานโปรดที่กองหน้าชาวนอร์เวย์ยกเครดิตให้คุณพ่อ อัลฟ์ อิงเก ฮาลันด์ ที่คอยทำให้กินว่าเป็น ‘ซอสลับของความสำเร็จ’
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกมาเปิดเผยเรื่องการดูแลฮาลันด์ว่า “ผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรบ้างที่ดอร์ทมุนด์ แต่ที่นี่เราดูแลเขาตลอด 24 ชั่วโมง เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพที่ยอดเยี่ยม พวกเขาจะคอยติดตามฮาลันด์ตลอดทั้งวัน”
แต่หากอยากรู้ความลับจริงๆ เป๊ปใบ้ว่ามี 4 คำ คือ ‘โภชนาการ’ ‘การพักผ่อน’ ‘การนอนหลับ’ และ ‘อาหาร’
นายใหญ่ชาวสเปนไม่ได้บอกว่า ‘คู่มือ’ ในการดูแลฮาลันด์มีอะไรบ้าง แต่บอกเป็นนัยว่าแมนฯ ซิตี้ ทุ่มเทกับการดูแลสภาพร่างกายของนักฟุตบอลอย่างถึงที่สุด เพราะโปรแกรมการแข่งฟุตบอลในปัจจุบันบางสัปดาห์อาจต้องลงแข่งมากถึง 3 นัด เรียกว่าใช้สภาพร่างกายกันเปลืองมาก ดังนั้นหากจะซื้อนักเตะแพงๆ จ่ายค่าตัวสูงๆ แต่กลับไม่ดูแลอย่างดีก็ไม่ใช่เรื่อง
ในทุกวันฮาลันด์จึงใช้เวลาในศูนย์ฝึกมากกว่าลงไปซ้อมในสนาม โดยมีทีมนักกายภาพที่จะคอยนวดกล้ามเนื้อ หลัง ไหล่ เส้นเอ็นทุกจุดที่สำคัญ
เคล็ดลับก่อนลงสนาม
ช่วงเวลาก่อนการลงสนามถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญ ยกตัวอย่างผู้จัดการทีมระดับท็อป เช่น เจอร์เกน คล็อปป์ จะไม่ยืนดูทีมตัวเองซ้อม (ปล่อยให้เป็นหน้าที่ทีมสตาฟฟ์เลย) แต่จะไปยืนดูคู่แข่งในช่วงการวอร์มอัพก่อนเกมซึ่งจะรู้ได้ว่า ‘ระดับความเข้มข้น’ ของคู่แข่งในวันนี้เป็นอย่างไร
หรือ โชเซ มูรินโญ จะพยายามลดความตึงเครียดของทีมในช่วงเวลาสุดท้ายของการเตรียมตัวก่อนลงสนาม
แล้วนักเตะแบบฮาลันด์ทำอะไร?
ไมค์ แม็กกรัธ ผู้สื่อข่าว Daily Telegraph ใช้เวลาในช่วงที่เหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนเกมระหว่างแมนฯ ซิตี้ กับเลสเตอร์ ซิตี้ ในการจับตาดูว่าฮาลันด์ทำอะไรบ้างในการเตรียมความพร้อมของตัวเอง และสิ่งที่พบคือ
- ฮาลันด์ยืนเฉยๆ เป็นเวลาเกือบ 5 นาที
- ฮาลันด์ยืนดู แจ็ค กรีลิช ที่พยายามฝึกสมองตัวเองด้วยการเลี้ยงหลบคู่แข่งในจินตนาการ
- เสร็จแล้วฮาลันด์เปิดบอลเล่นกับกรีลิช เตะข้ามกันไปมาสองคน
- ช่วงสุดท้ายก่อนจบการอบอุ่นร่างกายที่เป็นการซ้อมยิงประตู ฮาลันด์ก็ไม่ได้เน้นอะไรมากนัก ยิงไป 6 ครั้ง เข้า 3 ครั้ง ส่วนอีก 3 ครั้งเป็นการหลุดกรอบไปครั้งหนึ่ง ยิงชนเสา และโดนเซฟได้ครั้งหนึ่ง
บทสรุปที่ผู้สื่อข่าว Daily Telegraph พบคือฮาลันด์เตรียมตัวก่อนเกมแบบไม่เตรียมตัว เหมือนอยู่ใน Safe Mode เก็บประจุพลังงานเอาไว้กับตัวให้เหลือมากที่สุดเพื่อจะรอการระเบิดทีเดียวเมื่อถึงเวลาลงสนาม
และพอถึงเวลาฮาลันด์ก็ยิง 2 ประตูจากจุดโทษที่คมกริบ ซึ่งเขาไม่ได้ซ้อมในช่วงก่อนลงสนาม เช่นกันกับลูกชิปนุ่มๆ ที่ไม่ได้มีให้เห็นเลยในช่วงของการเตรียมตัว
วิชาลับกระบวนท่าที่ 1!
หนึ่งในสถิติที่น่าสนใจของฮาลันด์คือการที่จาก 47 ประตูที่ทำได้ในฤดูกาลนี้ มีถึง 40 ประตูที่เป็นการจบสกอร์ ‘จังหวะแรก’ (One Touch)
ที่ทำแบบนั้นได้เป็นเพราะการหาตำแหน่ง การหาพื้นที่ที่ชาญฉลาดของฮาลันด์ ที่จะไปอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกองหลังเสมอ และแน่นอนด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ ความเร็วที่เหลือเชื่อ ทำให้เขามีโอกาสจะจบสกอร์ได้ตลอดเวลา
เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งจะทำได้หลังมาเป็นลูกศิษย์ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา แต่เป็นสิ่งที่ทำมาได้ตลอดตั้งแต่แจ้งเกิดกับเรดบูล ซัลซ์บวร์ก แล้ว
แต่คนที่เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้คือโค้ชที่แทบไม่มีใครรู้จักอย่าง ทอร์ด ยอห์นเซน ซอลต์ และ อันเดรียส อูแลนด์
ย้อนกลับไปในช่วงที่ฮาลันด์ยังเป็นดาวรุ่งอยู่ในบ้านเกิดที่นอร์เวย์กับทีมเยาวชนไบรน์ ในช่วงนั้นรูปร่างของฮาลันด์ยังคงไม่ได้สูงใหญ่แบบที่เห็นเพราะว่าเป็นเด็กที่โตช้า ดังนั้นถึงจะเก่งเกินตัวแต่เมื่อถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมรุ่นสูงกว่า การเอาชนะคู่แข่งที่โตกว่าทั้งรูปร่างและมันสมองเป็นงานไม่ง่าย
โดยเฉพาะในตอนนั้นไบรน์มีคู่กองหลังที่แววดีอย่างยอห์นเซน ซอลต์ และอูแลนด์ ที่ยากจะเอาชนะได้
เรื่องนี้โค้ชเยาวชนของไบรน์ในเวลานั้นอย่าง อัลฟ์ อิงเกว เบิร์นสเตน เล่าว่า “การเจอกับกองหลังเก่งๆ แบบนี้เขาต้องใช้ไหวพริบ คู่แข่งของเขาเก่ง และเราไม่สามารถช่วยเขาได้ในจุดนี้ เขาต้องพยายามหาทางทำด้วยตัวเอง เพราะมันจะเป็นการดีกว่าสำหรับเออร์ลิงที่เขาจะเรียนรู้ด้วยตัวเอง มากกว่าที่คนแก่ๆ แบบผมจะบอกว่าเขาควรจะวิ่งไปตรงไหน เขาจะได้พัฒนาไปในสเต็ปของตัวเอง”
เบิร์นสเตนเล่าต่อว่า การหาตำแหน่งของฮาลันด์เกิดขึ้นจากบทเรียนในการเล่นเกมแบบโต๊ะเล็กที่เขาต้องพยายามหาทางเอาชนะเพื่อนให้ได้ บวกกับสไตล์ส่วนตัวที่เป็นนักฟุตบอลที่เล่นตาม ‘สัญชาตญาณ’ ทำให้ยิ่งเรียนรู้เองก็ยิ่งเก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
โค้ชบอกว่าเขาค้นพบสไตล์ของตัวเองตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว!
ส่วนที่แมนฯ ซิตี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา บอกเองว่าทีมไม่ได้มีการตระเตรียมอะไร แค่เพื่อนต้องมองให้ออกว่าฮาลันด์จะวิ่งไปตรงไหนเท่านั้น ซึ่งโชคดีที่พวกเขามีคนที่เปิดบอลได้เก่งที่สุดในโลกเวลานี้อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ อยู่ด้วยพอดี
นี่คือความลับเล็กๆ เรื่องสุดท้ายในความเก่งกาจของกองหน้าผู้เป็นปรากฏการณ์เวลานี้
อ้างอิง:
- https://www.telegraph.co.uk/football/2023/04/15/manchester-city-vs-leicester-live-score-premier-league/
- https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/erling-haaland-mancity-pep-guardiola-29713656
- https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11979137/The-unknown-Norwegians-turned-Erling-Haaland-dead-eyed-KILLER.html
- https://www.theguardian.com/football/that-1980s-sports-blog/2023/apr/13/clive-allen-scored-49-goals-season-spurs-tottenham-league-fa-cup
- สถิติเดียวที่ฮาลันด์ยังไม่น่าจะทำลายได้ในฤดูกาลนี้คือสถิติการยิงประตูถึง 60 ลูกในฤดูกาลเดียวของ ดิกซี ดีน ตำนานตลอดกาลของเอฟเวอร์ตันที่ทำไว้เมื่อฤดูกาล 1927/28 หรือเกือบ 100 ปีที่แล้ว!
- ฮาลันด์ยิงไป 13 ประตูจากโอกาส 24 ครั้งหลังสุด!