31 มีนาคม 1999 เราได้รู้จัก ‘นีโอ’ ผู้ชายชุดดำที่สวมแว่นตาดำเป็นครั้งแรก ก่อนที่เขาจะพาให้ภาพยนตร์ The Matrix กวาดรายได้ไปกว่า 463 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก และมีภาคต่อตามมาทั้ง The Matrix Reloaded (2003) และ The Matrix Revolutions (2003)
The Matrix เล่าเรื่องราวในโลกอนาคต เมื่อมนุษย์ทำสงครามกับหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ โดยระหว่างสู้รบ มนุษย์สามารถกำจัดแหล่งพลังงานของเหล่าหุ่นยนต์อย่างแสงอาทิตย์ได้โดยการทำให้ท้องฟ้ามืดดำ แต่ภายหลังหุ่นยนต์กลับพบแหล่งพลังงานใหม่ ซึ่งก็คือร่างกายของมนุษย์เอง และเป็นเหตุให้ฝ่ายมนุษย์พ่ายแพ้ นับแต่นั้นมนุษย์จึงถูกเลี้ยงให้เจริญเติบโตในแคปซูลเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน โดยหุ่นยนต์สร้างโลกจำลองที่เรียกว่า The Matrix ขึ้นมาเพื่อล่อลวงให้มนุษย์หลับใหลอยู่ภายใต้การควบคุมในโลกจำลองนั้น กระทั่งมอร์เฟียสและทรินิตี้ได้ปลุก นีโอ (รับบทโดย คีอานู รีฟส์) ตัวเอกของเรื่องขึ้นมา และนำไปสู่การปลดแอกมนุษยชาติ
ความสำเร็จของ The Matrix ไม่ใช่เพียงรายได้ทั่วโลกมากกว่า 463 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 63 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่ The Matrix ยังสร้างปรากฏการณ์หลายด้าน ทั้งแฟชั่นชุดดำ-แว่นตาดำ ที่กลายเป็นเครื่องแต่งกายยอดนิยม ฉากแอ็กชันซึ่งกลายเป็นภาพจำอย่าง Bullet Time ฉากหลบห่ากระสุนในตำนาน นอกจากนี้ยังส่งให้ผู้กำกับสองพี่น้อง แลรี และแอนดี้ วาชอวสกี รวมทั้งนักแสดงนำอย่าง คีอานู รีฟส์, ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น, แคร์รี-แอน มอส และฮิวโก้ วีฟวิง กลายเป็นนักแสดงแถวหน้าในวงการไปโดยปริยาย
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ The Matrix ฉายแสงในเวลาที่หนังแนวเดียวกันใกล้แตกดับ ประการแรกอาจเพราะการนำเสนอภาพยนตร์ในสไตล์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนักอย่าง Cyberpunk (โลกอนาคตที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยกับวิถีชีวิตที่ยากลำบาก) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พอมีให้เห็นบ้าง แต่อาจไม่เป็นที่นิยมเท่าไร อย่างใน Blade Runner (1982) ด้วยโทนการเล่าเรื่องที่แปลกและแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ส่งผลให้ The Matrix ถูกอกถูกใจเหล่าผู้ชมซึ่งอาจเบื่อหน่ายหนังภาคต่อและรีเมกที่ขยันสร้างกันเหลือเกินในยุคนั้น
ฉากแอ็กชันเป็นอีกส่วนสำคัญที่ดันให้ The Matrix โด่งดังเป็นพลุแตกคือการนำเอาศิลปะการต่อสู้แบบกังฟูมาใช้เป็นจริงเป็นจังในภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกๆ นอกจากจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนดูแล้วยังเปรียบเสมือนการปูทางให้ภาพยนตร์แอ็กชันในยุคหลังหยิบยกศิลปะการต่อสู้นี้มานำเสนอบ้าง โดยลีลาท่วงท่าเตะต่อยต่างๆ ใน The Matrix ยังเป็นภาพจำที่คงอยู่จนถึงทุกวันนี้ เช่น ท่ากวักมือสุดกวนของนีโอ หรือท่ากางปีกเตะของทรินิตี้
สุดท้ายและอาจนับได้ว่าเป็นสิ่งเลิศล้ำที่สุดที่ The Matrix มอบให้ผู้ชม นั่นคือการผสมผสานความแอ็กชันเข้ากับปรัชญาและสัญญะทางศาสนาต่างๆ ไม่เพียงความบันเทิงเท่านั้นที่ผู้ชมได้รับ แต่หนังยังแอบหยอดบางสิ่งบางอย่างให้คนดูได้กลับเอาไปคิด ถกเถียง พูดคุยกันต่อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฐานผู้ชมของ The Matrix ขยายออกเป็นวงกว้าง และนำพาภาพยนตร์สู่ความสำเร็จถึงขนาดสามารถผลิตภาคต่อออกมาได้อีก 2 ภาค ได้แก่ The Matrix Reloaded และ The Matrix Revolution ในปี 2003
วันนื้ถือได้ว่าเป็นการฉลองครบรอบ 19 ปี นับตั้งแต่ The Matrix เข้าฉายครั้งแรก ด้วยความอุตสาหะทะเยอทะยานที่จะนำเสนอความแปลกใหม่สู่ผู้ชม สไตล์ที่แตกต่าง ฉากแอ็กชันตื่นตาเร้าใจ และข้อคิดปรัชญาที่แฝงไว้อย่างแนบเนียน ทำให้ The Matrix กลายเป็นภาพยนตร์ไซไฟแห่งยุค 90s ที่ประสบความสำเร็จและยังตราตรึงอยู่ในใจผู้ชมจวบจนทุกวันนี้