×

The Masters กอล์ฟระดับเมเจอร์ที่ไม่มีใครเหมือน

10.04.2025
  • LOADING...

The Masters ไม่ใช่แค่การแข่งขันกอล์ฟแต่มันคือประวัติศาสตร์และธรรมเนียมที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้โดดเด่นเหนือใคร 🏆

 

นอกจากเป็นการแข่งขันระดับเมเจอร์แล้ว ความพิเศษของ ออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ อยู่ที่ธรรมเนียมต่างๆ ที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่เหมือนใคร!

 

และนี่คือรายละเอียดที่ทำให้กอล์ฟรายการนี้พิเศษ

 


 

 

Green Jacket

สูทสีเขียวตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของแชมป์ The Masters เริ่มมอบให้ผู้ชนะตั้งแต่ปี 1949 ซึ่งผู้ได้รับจะได้ครอบครองเพียง 1 ปีและต้องคืนให้ออกัสตา โดยหลังจากนั้นจะใส่ได้เฉพาะเมื่ออยู่ในออกัสตาเท่านั้น Green Jacket นี้ถือเป็นรางวัลทรงคุณค่าที่สุดอย่างหนึ่งในกีฬากอล์ฟ

 

 

The Presentation

หลังคว้าแชมป์ The Masters ผู้ชนะจะรับ Green Jacket จากแชมป์ปีก่อนใน Butler Cabin โดยแจ็กเก็ตตัวแรกจะเป็นของสมาชิกที่รูปร่างใกล้เคียงกัน ก่อนตัดตัวจริงให้ภายหลัง

 

 

Champions Dinner

หนึ่งในสิทธิ์ของแชมป์ The Masters คือการจัด Champions Dinner โดยปีนี้ สก็อตตี้ เชฟฟ์เลอร์ เลือกเมนูสไตล์อเมริกันที่มีจานหลักเป็นสเต็กหรือปลา ขณะที่หลายคนก่อนหน้านี้ก็มีเมนูที่เป็นตำนานอย่าง นิค ฟัลโด ที่เสิร์ฟฟิชแอนด์ชิปส์ หรือ ไทเกอร์ วูดส์ ที่เคยจัดชีสเบอร์เกอร์กับมิลก์เชกให้ทุกคนได้รับประทานมาแล้ว

 

 

The Par 3 Contest

The Par 3 Contest เป็นการแข่งขันสนุกๆ ก่อนวันแข่งจริง เริ่มครั้งแรกในปี 1960 บนสนามพาร์ 3 ที่ออกัสตา โดยมีเพื่อนและครอบครัวนักกอล์ฟมาร่วมแจม แม้หลายคนดังเคยชนะ แต่ไม่มีใครคว้าแชมป์ The Masters หลังชนะ Par 3 ได้เลย!

 

 

The Crow’s Nest 

คือห้องพักสไตล์หอพักเล็กๆ บนชั้น 2 ของคลับเฮาส์ที่ออกัสตา สงวนไว้สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ร่วมแข่ง The Masters โดยเฉพาะ แม้พื้นที่เล็กแต่รองรับได้ถึง 5 คน พร้อมภาพอดีตแชมป์และกลิ่นอายประวัติศาสตร์ เป็นประสบการณ์พิเศษที่เหล่านักกอล์ฟอาชีพไม่มีโอกาสสัมผัส

 

 

Caddie’s White Boiler Suits

แคดดี้ใน The Masters ต้องสวมชุด Boiler หรือชุดหมีสีขาวและหมวกเขียวตามธรรมเนียม โดยก่อนปี 1983 นักกอล์ฟไม่ได้รับอนุญาตให้นำแคดดี้มาเอง และต้องใช้แคดดี้ของสนามเท่านั้น แม้ภายหลังจะเปลี่ยนกฎ แต่ยังคงให้แคดดี้ทุกคนสวมชุดดั้งเดิมของสนาม

 

 

The Patrons

ที่ออกัสตา ผู้ชมไม่ใช่แฟน แต่เรียกว่า ‘Patrons’ โดยทุกการถ่ายทอดสดก็ต้องเรียกตามนี้ นอกจากนี้ยังมีกฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในสนาม เพื่อให้ผู้ชมสามารถชมการแข่งขันด้วยตาของตัวเอง ทำให้ทุกคนต้องรีบเพื่อหาจุดที่ดีที่สุดในการรับชมด้วย

 

 

Value Food

สิ่งที่ผู้โชคดีที่ได้ไปชม The Masters มักพูดถึงคืออาหารและเครื่องดื่มที่มีราคาย่อมเยา โดยแซนด์วิชสลัดไข่หรือแซนด์วิชพิเมนโตชีสมีราคาเพียง 1.5 ดอลลาร์ ขณะที่ไวน์ขาวราคาแพงที่สุดแค่ 6 ดอลลาร์ และของว่างอย่างไอศกรีมก็ราคาไม่เกิน 2.5 ดอลลาร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising