ธนาคารกรุงเทพเป็นแบงก์แรกที่ปล่อยสินเชื่อให้ ‘เดอะมอลล์’ ซึ่ง ‘ศุภลักษณ์ อัมพุช’ แม่ทัพใหญ่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ย้ำมีส่วนเปลี่ยนบัตร Co-Brand จาก SCB มาเป็นธนาคารกรุงเทพ ด้วยสัญญาระยะยาว 10 ปี ที่สำคัญหากรีเทลมีบัตร Co-Brand เป็นของตัวเองจะช่วยสร้างเบเนฟิตแถมยังทำ CRM ง่ายขึ้น
พร้อมกล่าวต่อว่า การดำเนินธุรกิจนั้นมีทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ถ้ามีพาร์ตเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งและมั่นคงจะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับเดอะมอลล์ แรกเริ่มของจุดเริ่มต้นธุรกิจก็มีธนาคารกรุงเทพเป็นแบงก์แรกที่ปล่อยสินเชื่อให้มาเปิดเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ ซึ่งเป็นสาขาแรก จากนั้นธนาคารกรุงเทพได้สนับสนุนมาทุกๆ โปรเจกต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“โรดแมประยะยาวของเดอะมอลล์ เราอยากได้พาร์ตเนอร์ที่เดินหน้าไปกับเราได้ในระยะยาว จึงทำให้เดอะมอลล์กรุ๊ปจับมือกับธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวบัตร Co-Brand ร่วมกัน ด้วยสัญญาระยะยาว 10 ปี ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ที่เพิ่งหมดสัญญากันไป เราก็ยังเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีต่อกันเช่นเดิม” ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว
สำหรับการจับมือกันในครั้งนี้เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่างธนาคารกรุงเทพกับเดอะมอลล์กรุ๊ป เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยการเปิดตัวบัตรเครดิตและเดบิต Bangkok Bank M Visa ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ ทั้งส่วนลดในการช้อปปิ้งสูงสุด 10% รับคะแนน M Point สูงสุด 4 เท่า ควบคู่กับการเข้าถึงการรับชมคอนเสิร์ตและการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งหมดอยู่ภายใต้คอนเซปต์ ‘THE LEGENDARY’ ที่มีเป้าหมายตอบโจทย์นักช้อปยุคใหม่ และจะช่วยให้เดอะมอลล์สามารถขยายฐานสมาชิกได้ตามเป้าหมาย 5 ปี ตั้งเป้าผู้สมัครสมาชิกบัตร 1.5 ล้านใบ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน ที่เป็นฐานลูกค้าหลักของธนาคารกรุงเทพ
จากเดิมแล้วผู้ใช้งานบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะใช้จ่ายอยู่ที่ 3,000 บาท แต่สมาชิกผู้ใช้งานบัตร Co-Brand ของเดอะมอลล์มียอดใช้จ่ายมากกว่าถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
“ต้องยอมรับว่าการที่รีเทลมีบัตร Co-Brand เป็นของตัวเองจะช่วยสร้างเบเนฟิตระหว่างศูนย์การค้ากับลูกค้าได้ แถมยังทำ CRM เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความซับซ้อน ยิ่งเรารู้เทรนด์ของลูกค้า ก็จะช่วยให้หาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น”
ดังนั้นการวางกลยุทธ์การตลาดจึงจำเป็นต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดยเดอะมอลล์ กรุ๊ปได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิก ด้วยซอฟต์แวร์ที่รองรับกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก Big Data โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลการใช้จ่ายของฐานลูกค้าหลักมาวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีสมาชิก M card ทั้งหมด 5.3 ล้านราย และลูกค้ากว่า 50% ชำระผ่าน Digital Payment ได้แก่ บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ QR Code เนื่องจากมีความปลอดภัย สะดวก และความคุ้มค่า และที่เห็นได้ชัดคือปัจจุบันมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตร Co-Brand สูงกว่าบัตรเครดิตทั่วไปถึง 4.5 เท่า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
“สุดท้ายการจับมือครั้งนี้จะทำให้ธนาคารกรุงเทพสามารถเข้าถึงรายย่อยได้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกการบริการถึง” ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ย้ำ
