วันนี้ (24 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบว่าสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลัง KNLA ของกลุ่มกะเหรี่ยง KNU กับทหารเมียนมาในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามอำเภอแม่สอด เป็นไปอย่างสงบ ไร้เสียงปืนตลอดทั้งวัน และไม่มีปฏิบัติการทางทหารจากฝ่ายใด
ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนูเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้กลุ่มชาวเมียนมาที่อพยพข้ามมาฝั่งที่อำเภอแม่สอด ชุดสุดท้ายจำนวน 658 คน ได้เดินทางกลับไปยังฝั่งเมียนมาแล้วด้วยความสมัครใจ โดยยังคงเหลือผู้อพยพเมียนมาเพียง 77 คน ที่บ้านหนองหลวง อำเภออุ้มผาง ทำให้ทางการต้องปิดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวลง
ด้าน พะโด ซอ ตอนี (Padoh Saw Taw Nee) โฆษกกลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เปิดเผยว่า กองกำลัง KNLA ถอนกำลังออกไปจากเมียวดีชั่วคราว และเคลื่อนย้ายไปปฏิบัติการโจมตีฝ่ายทหารเมียนมา กองพล 55 ที่พยายามเสริมกำลังเข้ามา ตามแผนปฏิบัติการ ‘อ่องเส่ยะ’ ของสภาทหาร SAC ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อยึดคืนเมียวดี
ส่วนกรณีที่กองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) ของพันเอก หม่อง ชิตู นำทหารเมียนมาไปเปลี่ยนธงชาติที่ค่ายผาซอง หรือกองพันทหารราบเบาที่ 275 ในเมียวดีนั้น ทางโฆษก KNU ระบุว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และไม่ต้องการให้กลุ่มกะเหรี่ยง KNU กับ KNA เกิดความแตกแยกอีก โดยยืนยันว่า KNU มีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านอกเหนือจากการเปลี่ยนชนชั้นผู้ปกครอง คือการเปลี่ยนระบบการปกครองทั้งหมดที่กำลังย่ำแย่