สารคดีกีฬา The Last Dance กลายเป็นปรากฏการณ์ที่จุดประกายโลกกีฬาที่เงียบเหงาในยุคโควิด-19 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยยอดผู้ชมใน 2 เอพิโสดสุดท้ายที่เพิ่งออกฉายเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกามีจำนวนยอดผู้ชมเฉลี่ยถึง 5.9 ล้านคน
เรื่องราวต่างๆ ของสารคดีชุดนี้ถูกนำออกมาขยาย มีการเล่าซ้ำ เล่าต่อ ถอดบทเรียน และเกิดบทวิเคราะห์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวละครหลักอย่าง ไมเคิล จอร์แดน หรือตัวละครเสริมอย่างกลุ่มเพื่อนร่วมทีมที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ไปจนถึง เจอร์รี เคราส์ ในฐานะผู้จัดการทีม รวมถึงรองเท้า Air Jordan 1 ที่กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
ไม่น่าแปลกใจที่หลายเสียงยกย่องให้ The Last Dance เป็นสารคดีกีฬาที่ ‘ดีที่สุด’ ในโลกตั้งแต่เคยมีมา
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกใจไปเสียหมดกับเรื่องราวที่ปรากฏในสารคดีความยาว 10 ชั่วโมง ที่ถูกแบ่งออกเป็น 10 ตอน โดยเฉพาะในหมู่เพื่อนร่วมทีมเก่าของจอร์แดนที่ชิคาโก บูลส์ มีคนที่คิดว่าภาพของ ‘MJ’ ในสารคดีนั้นถูกทำให้ดูดีจนเกินจริงไปมาก
“ผมอยากบอกว่า สารคดีนั้นสนุก แต่เราซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันมาก่อนต่างรู้ว่ามันมีความจริงอยู่แค่ 90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” ฮอเรซ แกรนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในขุนพลกระทิงดุที่เคยร่วมคว้าแชมป์ Three-Peat มากับจอร์แดน ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ 1000’s Kap and Co ทาง ESPN เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
“มันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะมีหลายๆ ครั้งที่เขาพูดกับเพื่อน เพื่อนก็จะโต้ตอบเขากลับเหมือนกัน แต่ดูสิ่งเหล่านั้นจะถูกตัดออกจากสารคดี ถ้าคุณอยากจะเรียกมันว่าสารคดีนะ”
ใน The Last Dance ภาพที่ทุกคนจะได้เห็นและรู้สึกคือ การที่จอร์แดนพยายามที่จะปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง แม้ว่าจะต้องเสี่ยงต่อการที่จะสูญเสียความนิยมในตัวก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว แกรนต์ ซึ่งอยู่กับบูลส์มา 7 ฤดูกาล บอกว่า บางครั้งอดีตนักบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของโลกก็ทำเกินความจำเป็นไปมาก
“เขารู้สึกว่าเขาจะครอบงำผมได้ แต่เสียใจด้วยที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น” แกรนต์กล่าว “เพราะเมื่อไรที่เขาเปิดศึกกับผม ผมก็จะฉะเขากลับ แต่ในกรณีของ วิลล์ เพอร์ดู, สตีฟฟ์ เคอร์ และพวกเด็กๆ อย่าง สกอตต์ เบอร์เรลล์ มันเป็นเรื่องน่าใจสลายนะที่เห็นคนที่ควรจะเป็นผู้นำหันไปข่มเด็กแบบนั้น ผมเข้าใจในแง่ของการฝึกซ้อม มันต้องมีการพยายามผลักดันในเรื่องต่างๆ แต่อย่างการไปชกหน้าเพื่อนหรืออะไรแบบนั้นแล้ว มันเกินไปมาก”
แกรนต์เองเป็นหนึ่งในคนที่ถูกจอร์แดนพูดถึงในทางไม่ดีนัก โดยถูกกล่าวหาใน The Last Dance ว่าเขาเป็น ‘แหล่งข่าววงใน’ ในหนังสือ The Jordan Rules หนังสือที่ทำให้ชื่อเสียงของ ไมเคิล จอร์แดน กลายเป็นชื่อเสีย
“โกหก โกหก โกหกทั้งนั้น… ถ้าเขามีปัญหากับผมมากนัก ก็มาตัดสินกันแบบลูกผู้ชายเลย” แกรนต์กล่าวด้วยความโกรธ “มาคุยกันสิ หรือไม่อย่างนั้นก็หาวิธีจบเรื่องนี้แบบอื่น แต่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังออกมาพูดถึงเรื่องโกหกนี้ว่า ผมเป็นคนอยู่เบื้องหลังหนังสือ (The Jordan Rules) แซม สมิธ (ผู้แต่งหนังสือ) กับผมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ แต่สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในล็อกเกอร์รูม ผมไม่เคยที่จะแพร่งพรายอะไรที่เป็นส่วนตัวออกไปเลย ข้อเท็จจริงก็คือ แซม สมิธ เขาเป็นนักข่าวในเชิงสืบสวนสอบสวน และเขาก็มีแหล่งข่าวของเขาเอง 2 คน ที่ทำให้เขาเขียนหนังสือได้ เรื่องนี้ผมเดาเอา แล้วทำไม MJ ถึงกล่าวหาผม?
“มันเป็นเรื่องความแค้นผมบอกได้เลย มันคือเรื่องนี้แหละ และผมคิดว่าเขาพิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่า เป็นจริงในสิ่งที่คนเรียกมันว่าสารคดี ถ้ามีคนพูดอะไรกับเขา เขาจะตัดมันออก เขาพยายามที่จะทำลายตัวตนของคุณ
“ผมไม่เคยเห็นการอ้างอิงถึงเรื่องของ Number Two Guy เหมือนที่เขาสร้างภาพให้ สกอตตี พิพเพพ ซึ่งภาพที่ออกมานั้นแย่มาก”
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองส่งข้อความหากันคือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และไม่มีอะไรมากกว่าการชวนคุยเรื่องกอล์ฟ ส่วนในสารคดีนี้แกรนต์เชื่อว่า หนึ่งในสาเหตุของปัญหาอาจเกิดจากบทบาทของบริษัทที่มีส่วนในการผลิตสารคดีนี้ ซึ่งเป็นบริษัทของจอร์แดนเอง
“เมื่อใดก็ตามที่สิ่งที่เรียกว่าสารคดีนี้เกี่ยวกับคนคนเดียว โดยปกติแล้วเขาจะมีสิทธิ์ขาดในการจะบอกว่า จะมีอะไรที่ได้ปรากฏในนั้นบ้าง… ซึ่งมันไม่ใช่สารคดี” แกรนต์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/sport/2020/may/19/horace-grant-michael-jordan-the-last-dance-documentary-espn
- https://www.esquire.com/entertainment/tv/a32577848/the-last-dance-scottie-pippen-reaction-criticism/
- https://apnews.com/706bb57c8b6e71e02ab65e19738eede5?utm_source=Twitter&utm_campaign=SocialFlow&utm_medium=AP_Sports
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
- ตามการสำรวจโดย Nielsen จำนวนผู้ชมสารคดีแบบออกอากาศสดทาง ESPN และ ESPN2 ในสหรัฐอเมริกา เฉลี่ยอยู่ที่ 4.9-6.3 ล้านคน
- หากรวมการชมย้อนหลังต่างๆ แล้ว เฉพาะแค่ใน EP1 มีการชมเกือบ 15 ล้านครั้ง
- คนใกล้ชิดของ สกอตตี พิพเพน เผยว่า อดีตสตาร์บูลส์ไม่พอใจกับภาพลักษณ์ของเขาในสารคดีชุดนี้