วันนี้ (22 ตุลาคม) กนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กระบวนการหลังจากกักโรคครบ 5 วัน จะมีการนำตัวผู้ต้องขังคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่แดนระหว่างพิจารณาคดี
สำหรับสุขภาพของผู้ต้องขังหญิงในคดีนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีเพียงบางคนที่ต้องพบแพทย์ด้วยอาการเล็กน้อย เช่น ตาแห้ง มีไข้เล็กน้อย ส่วน มิน-พีชญา วัฒนามนตรี กนกวรรณเปิดเผยว่าไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ เรื่องความเครียดสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับปกติทั้งหมด เพราะต้องยอมรับว่าการเข้ามาอยู่ตรงนี้ต้องใช้เวลาปรับตัว
โดยระหว่างนี้ทนายความสามารถเข้ามาเยี่ยมได้ทุกวันและไม่จำกัดเวลา ส่วนครอบครัวจะเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที หรือเยี่ยมออนไลน์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยวันนี้มีครอบครัวของ 3 ผู้ต้องขังติดต่อเข้ามาขอเยี่ยม
สำหรับการดูแลผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดี กนกวรรณระบุว่า จะมีความแตกต่างกับการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งเรื่องกายภาพซึ่งจะมีการแยกกันอยู่ ไม่ปะปนกัน และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีผู้หญิงสามารถไว้ผมยาวได้ เพียงแต่ต้องมัดรวบให้เรียบร้อย หรือหากร้อนและอยากตัดผมก็สามารถตัดได้เช่นกัน นอกจากนี้ มีสิทธิในการพบทนายความเพื่อเตรียมต่อสู้คดีได้เต็มที่ ซึ่งตลอด 5 วันที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องติดต่อเข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีนี้
ส่วนผู้ต้องขังชายเท่าที่มีการประสานกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทราบว่าคนที่มีการป่วย เช่น วิน-ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ ที่เป็นมะเร็ง จะได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ส่วนจะต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ณ เวลานี้ยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์
ด้าน ปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่ากันต์มีอาการน่าเป็นห่วงจนต้องขอพบแพทย์กลางดึก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กันต์สุขภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง อยู่ในระหว่างการปรับตัวและไม่มีการพบแพทย์กลางดึก ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่ากันต์ไม่สามารถกินอาหารในเรือนจำได้ โดยกินไข่พะโล้เพียงคำเดียวและคายออกมานั้นไม่เป็นความจริงเช่นกัน