บิดเข็มนาฬิกา…ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ลิโอเนล เมสซี ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฐานะเจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก ถ้วยรางวัลสุดท้ายที่เขาปรารถนามาทั้งชีวิต โดยที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความชื่นมื่น
ตัดภาพกลับมาในเวลานี้ เมสซีถูกคำสั่งลงโทษแบนจากเปแอสเชเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากที่เดินทางไปซาอุดีอาระเบียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสโมสร และตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (The Greatest of All Time) กลายเป็นเป้าโจมตีของชาวปารีเซียงอย่างหนักหน่วง โดยที่ผลงานของเมสซีและทีมก็เริ่มประสบปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ
เกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย?
ย้อนกลับไป ณ เหตุการณ์ที่กลายเป็นปัญหาในเวลานี้คือ เรื่องการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียของเมสซี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตามรายงานข่าวจากอาร์เจนตินาระบุว่า กำหนดการเดินทางครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัดว่าเมสซีไปทำอะไรกันแน่? แต่สิ่งที่คาดกันคือ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 35 ปี เดินทางไปซาอุดีอาระเบียเพื่อเจรจาในเรื่องของการเป็นทูตการท่องเที่ยวของรัฐ คล้ายคลึงกับที่ คริสเตียโน โรนัลโด เซ็นสัญญาในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
ปัญหาเกิดขึ้นตรงที่กำหนดการของเมสซีนั้นมีการวางเอาไว้ล่วงหน้า และกำหนดการเดินทางเดิมนั้นอยู่ใน ‘วันหยุด’ ของสโมสรพอดี ซึ่งทีมของเมสซีมีการเช็กกำหนดการของสโมสรและแจ้งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
แต่ภายหลังจากที่สโมสรทำผลงานเลวร้าย โดยในเกมล่าสุดพ่ายต่อลอริยองต์แบบสุดช็อก ทำให้ คริสตอฟ กาลติเยร์ มีการสั่งให้นักเตะมารายงานตัวฝึกซ้อมในวันจันทร์ด้วย ทำให้วันที่เคยเป็นวันหยุดกลายเป็นวันทำงานไปเสีย
เมสซีจะกลับตัวก็ไม่ได้ เพราะมันกะทันหันเกินไป จึงต้องเดินหน้าต่อไปตามกำหนดการเดิม
นั่นนำไปสู่การลงโทษของสโมสร และกลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา เพราะนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เมสซีถูกลงโทษจากสโมสรในลักษณะนี้
เรื่องนี้เป็นการส่งสัญญาณจากทางด้านเปแอสเชด้วยว่า พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเมสซีมากไปกว่าการเป็นนักฟุตบอลคนหนึ่งที่มีสัญญากับสโมสร และต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเท่าเทียมกับทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น
และเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนการแสดงจุดยืนของทีมดังของนครแห่งความรักด้วยว่า พวกเขาพร้อมที่จะตัดความสัมพันธ์กับเมสซีลงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้
ตามรายงานข่าว เดิมเปแอสเชมีแผนการที่จะเจรจาเรื่องสัญญาใหม่กับสตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ที่ตกลงปลงใจย้ายมาร่วมทีมด้วย หลังอกหักเพราะบาร์เซโลนา ต้นสังกัดที่เป็นรักแรกและรักเดียวตลอดชีวิต ประสบปัญหาทางการเงินขั้นร้ายแรงจนไม่สามารถเสนอสัญญาให้ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยจนคาดว่าตกลงกันได้แล้ว
ด้านเมสซีเองก็มีแผนการในใจของตัวเอง ซึ่งตามเดิมเชื่อว่าเขาต้องการจะอยู่ที่ปารีสเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะขอย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เพื่อปิดฉากชีวิตการเล่นของตัวเองกับอินเตอร์ ไมอามี สโมสรของ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งอาจจะได้หวนมาเล่นกับ หลุยส์ ซัวเรซ เพื่อนรัก อีกครั้ง
แต่หลังจากที่เมสซีระเบิดเพลงแข้งจนพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ได้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ความสำเร็จนั้นทำให้เขามีความกระหายที่จะค้าแข้งในยุโรปต่อไป และมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บาร์เซโลนาพยายามติดต่อเพื่อขอให้เขาย้ายกลับมาคัมป์นูอีกครั้ง
กระแสข่าวการคัมแบ็กของเมสซีแรงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า บาร์ซาจะต้องหาทางจัดการเรื่องปัญหาทางการเงินกับลาลีกาให้ได้เท่านั้น
ข่าวการกลับไปบาร์ซาและท่าทีของเมสซีที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างเขาและเปแอสเช โดยเริ่มจากแฟนบอลที่ไม่พอใจกับข่าวดังกล่าว และเริ่มโห่ใส่สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการต่อต้านนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา และดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะใจตรงกันที่ต้องการจะแยกทางกันแต่เพียงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยที่เปแอสเชก็ไม่คิดที่จะใช้เงื่อนไขในการขยายสัญญาออกไปแต่อย่างใด เพราะพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องง้อใครเหมือนกัน
ต่อให้มีโอกาสที่จะเสียทั้งเมสซีและเนย์มาร์ไปหลังจบฤดูกาลนี้ก็ไม่เป็นไร
อย่างไรก็ดี การจะกลับบาร์ซาของเมสซีไม่ใช่เรื่องง่าย ตามรายงานจาก Forbes ที่อ้างอิงจากรายงานข่าวในสเปนจาก SPORT ระบุว่า แผนการเงินของบาร์ซาเพื่อจะสร้างโอกาสในการดึงเมสซีกลับมาเป็นเรื่องที่ ‘พูดง่าย ทำยาก’
ปัญหาทางการเงินของบาร์ซายังอยู่ในขั้นวิกฤต แม้ว่าจะมีการใช้ ‘คานทางการเงิน’ (Economic Lever) ไปแล้วหลายครั้งผ่านการขายสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ ของสโมสร
ก่อนหน้านี้ก็เกิดปัญหากับกรณีของ กาบี มิดฟิลด์พรสวรรค์ ที่มีคำสั่งยกเลิกสัญญาที่มีการต่อฉบับใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว จนต้องกลับมาใช้สัญญาฉบับเดิมที่เป็นสัญญาของนักเตะในระดับเยาวชน และสัญญานั้นมีระยะเวลาถึงแค่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ (โรนัลด์ อาเราโฮ ปราการหลังอนาคตไกล ก็เป็นอีกคนที่เจอปัญหาเดียวกัน)
เรียกได้ว่าก่อนที่จะคิดถึงการดึงเมสซีกลับมา บาร์ซามีสิ่งที่ต้องจัดการอีกมากมายหลายอย่าง และผ่านมาถึงตอนนี้แทบจะเป็น Mission Impossible สำหรับ โจน ลาปอร์ตา ในฐานะประธานสโมสร
สำหรับเมสซี เขายังไม่อยู่ในจุดที่น่าเดือดเนื้อร้อนใจนัก เพราะด้วยสถานะ G.O.A.T ทำให้พอจะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้มากกว่าคู่แข่งอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ที่มีรายงานว่า ไม่มีความสุขกับการเล่นในซาอุดีอาระเบีย และต้องการหาทางย้ายออกจากอัล นาสเซอร์
เขาพร้อมจะรอบาร์ซาว่าจะหาหนทางพาเขากลับ ‘บ้าน’ ได้หรือไม่
หากมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ยังมีตัวเลือกสำรองอย่างอินเตอร์ ไมอามี และอาจเป็นอัล ฮิลาล สโมสรคู่แข่งของอัล นาสเซอร์ ในซาอุดีอาระเบีย ที่พร้อมเซ็นสัญญากับเขาเสมอ
เมสซี vs. โรนัลโด บนดินแดนทะเลทราย เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะเราก็ได้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นได้เสมอ
ส่วนกับเปแอสเช โทษแบน 2 สัปดาห์ทำให้เมสซีเหลือโอกาสจะลงสนามในสีเสื้อแดง-กรมท่าอีกแค่ 3 นัดเท่านั้น คือ เกมที่จะพบกับโอแซร์, สตราส์บูร์ก และแกลร์กมงต์
ก่อนจะถึงเวลาบอกลา “Au Revoir” กันเท่านี้
อ้างอิง: