×

‘ทวี’ เผชิญหน้า ‘แป้ง นาโหนด’ ได้รับคำชม เก่งที่ตามตัวได้ ด้านผลแถลงร่วม ป.ป.ส. ตำรวจอินโดนีเซีย เผยมีการปลอมชื่อ-มีพรรคพวกค้ายาข้ามชาติคอยช่วยเหลือ

โดย THE STANDARD TEAM
02.06.2024
  • LOADING...

วันนี้ (2 มิถุนายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ภายหลังจากที่คณะทำงาน นำโดย พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พบและพูดคุยกับ เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด จากนั้นมอบหมายให้ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นตัวแทนของคณะทำงานทางการไทย ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวเชาวลิตกับทางการอินโดนีเซีย นำโดยผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ในนามของตัวแทน พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ที่ช่วยเหลือติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญของไทย ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นบุคคลที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยขาดความเชื่อมั่นและความศรัทธาจากประชาชน ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ต้องโทษคดียาเสพติด และคดีฆ่าผู้อื่น 

 

ที่สำคัญมีการแหกคุกออกจากสถานที่คุมขังระหว่างนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ตุลาคม 2566 กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศไทย มีความพยายามเร่งรัดติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี กระทั่งคณะทำงานสืบทราบว่าผู้ต้องหาเข้ามาหลบซ่อนตัวที่ประเทศอินโดนีเซีย และภายใน 6 วันเท่านั้น ทางการอินโดนีเซียก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ถือว่าทีมงานของอินโดนีเซียมีประสิทธิภาพสูงมากในการติดตามจับกุมตัว

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์กล่าวอีกว่า ตนได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ตร.อินโดนีเซีย เราเห็นตรงกันว่าปัญหายาเสพติดนั้นไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่ต้องร่วมมือกัน จับมือกัน และประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดจึงจะสำเร็จ ตนก็ต้องกล่าวขอบคุณคณะทำงานทางการอินโดนีเซียที่ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ถือเป็นการช่วยมวลมนุษยชาติในการป้องกันปัญหาเรื่องยาเสพติดได้

 

เมื่อถามทางการอินโดนีเซียเกี่ยวกับประเด็นที่เชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด มีการปลอมแปลงชื่อเป็น ‘Mr.Sulaiman (สุไลมาน)’ จะสามารถขยายผลติดตามผู้ให้การช่วยเหลือหลบหนี หรือขยายผลไปยังเครือข่ายนักค้ายาเสพติดได้หรือไม่ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์อธิบายว่า เชาวลิตเป็นคนที่มีอิทธิพลสูงในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งคุณสมบัติของผู้ต้องหารายนี้นั้นค่อนข้างเป็นคนชอบใช้เงินในการจัดการเรื่องต่างๆ เราเชื่อว่าเขามีการใช้เงินที่ได้มาจากการข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากพอได้เงินจากยาเสพติดมาแล้ว ก็จะนำเงินบางส่วนไปเลี้ยงคนยากจน จนเป็นเหตุให้คนในชุมชนรัก

 

ดังนั้นในอดีตที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่เชาวลิตถูกจับกุม ผบ.เรือนจำกลางพัทลุงเห็นว่าเชาวลิตเป็นคนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงทำเรื่องให้ย้ายมาคุมขังที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความไม่รัดกุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพราะผู้ต้องขังมีการแกล้งป่วย และขอออกมารักษาตัวนอกเรือนจำฯ ที่โรงพยาบาลนครศรีธรรมราช แต่ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยควบคุมดูแล แต่ก็เกิดความบกพร่องขึ้น ซึ่ง พ.ต.อ. ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ลงโทษ ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว (ปัจจุบันถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์)

 

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนของทางการไทย เราพบว่าเชาวลิตมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด ทั้งการส่งยาและลำเลียงยาเสพติด โดยพบว่ามีการซื้อยาเสพติดมาจากชายแดนภาคเหนือของไทย อีกทั้งบางส่วนน่าเชื่อว่ามีการส่งมาจากประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้นการที่เชาวลิตหลบหนีออกมาจากสถานที่คุมขัง และมากบดานอยู่ในประเทศอินโดนีเซียได้นั้น เชื่อว่ามีกลไกพรรคพวกของเขาที่ทำเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดช่วยพาหลบหนีมาที่นี่

 

ทั้งนี้ ข้อมูลเรื่องการสืบสวนเกี่ยวกับยาเสพติด ทางประเทศไทยจะมีการแลกเปลี่ยนกับทางการอินโดนีเซียเพื่อต่อจิ๊กซอว์ดูว่าใครอยู่เบื้องหลัง คอยให้การช่วยเหลือเชาวลิตโดยเฉพาะในเรื่องยาเสพติด

 

ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว พ.ต.อ. ทวีเข้าไปพูดคุยกับเชาวลิต โดยเชาวลิตกล่าวยอมรับว่า “ผมผิด ยอมรับ ไม่ต้องพิจารณาให้มากความ แต่ว่าเรื่องยาเสพติดไม่ใช่ของผมอย่างแน่นอน”

 

ขณะที่ พ.ต.อ. ทวีตอบกลับว่า “ในเรื่องนั้นเราจะให้ความเป็นธรรม ไม่ต้องกังวล รวมถึงให้ความเป็นธรรมในสิ่งที่แป้งเคยพูดไว้” จากนั้นหนึ่งในคณะของ พ.ต.อ. ทวีสอบถามว่าอยู่ที่อินโดนีเซียใครช่วยเหลือ เชาวลิตตอบว่า “ไม่มี ผมก็ไปเรื่อยๆ ของผม พวกเอกสารต่างๆ ก็จ้างคนอาเจะฮ์ทำ ส่วนที่ไปอยู่คอนโดหรูได้ก็เป็นคนอาเจะฮ์ที่ปลอมเอกสารเป็นคนจัดหาที่พักให้”

 

เมื่อถามว่าคนที่ปลอมเอกสารให้ทำงานอะไร เชาวลิตกล่าวตอบว่า “เขามีคอนโด ส่วนเงินในบัญชีที่ใช้ก็เป็นบัญชีของผม” เชาวลิตยังได้ร้องขอกับ พ.ต.อ. ทวีว่า ขออย่าให้กฎหมายของกรมราชทัณฑ์เป็นเหมือนในสมัยที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะผู้ต้องขังทุกคนก็เป็นคน

 

เชาวลิตยังกล่าวทิ้งท้ายกับ พ.ต.อ. ทวีอีกว่า “ผมขอพูดตรงๆ ว่าสุดยอดมากเลย ผมยอมแพ้ (หัวเราะ) และขอยอมรับต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเลยว่าเจ๋งจริง ตามจับกุมผมได้ ผมบินไปบาหลีแล้วยังตามได้อีก ซึ่งผมไปมา 3-4 ประเทศแล้ว” จากนั้นยกมือชูนิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างให้กับ พ.ต.อ.ทวี

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X