วันนี้ (3 กรกฎาคม) ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ หากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่สามารถตกลงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประธานสภาหรือนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติต้องรอมติพรรค ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างแน่นอน ซึ่งส่วนตัวได้เห็นกระแสข่าวว่ามีชื่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นแคนดิเดตประธานสภานั้น ส่วนตัวมองว่าท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และที่ผ่านมาทำหน้าที่ได้ดี จึงมองว่ามีความเหมาะสมที่จะนั่งตำแหน่งประธานสภา แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับมติของพรรค
“เป็นอาจารย์วันนอร์ ผมว่าเหมาะกว่าพรรคก้าวไกล เพราะแคนดิเดตของพรรคก้าวไกลมีความรู้ความสามารถ แต่ยังต้องใช้ระยะเวลาในการสั่งสมประสบการณ์ เพราะตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นกลาง มีวุฒิภาวะ คือการควบคุมสภานั้นไม่ใช่ว่า ส.ส.ทุกคนทำได้ ต้องเป็นคนที่มีบารมีพอสมควร” ธนกรกล่าว
ส่วนมติของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ธนกรกล่าวว่า วันนี้จะมีการพูดคุยกัน ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมี ส.ส.ทั้งสิ้น 36 คน และมีการปรึกษาหารือกับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภากันไม่ได้ แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติมีการพูดคุยถึงแนวทางการโหวตอย่างไร ธนกรกล่าวว่า เราบอกเสมอว่าไม่โหวตประธานสภาให้กับพรรคการเมืองที่เสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรคมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นแม้ว่าพรรคก้าวไกลเสนอชื่อมาก็จะไม่มีการโหวตให้แน่นอน ส่วนพรรคอื่นต้องมีการพูดคุยกันในพรรคอีกครั้งเช่นกัน การเสนอชื่อวันมูหะมัดนอร์ มะทา ต้องพิจารณาดูว่า ส.ส.ทั้ง 36 คนมีความคิดเห็นอย่างไร
ธนกรกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าอยากให้สภาเดินไปข้างหน้าด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความเร่งรีบ ให้สมกับที่ประชาชนรอคอย พร้อมย้ำว่า ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็น ส.ส.ที่เรียบร้อย ตั้งใจทำงาน และพร้อมที่จะทำงานในรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล พร้อมทุกหน้าที่ ส่วนแนวทางการโหวตประธานสภาเป็นไปในทิศทางที่เห็นด้วยหรืองดออกเสียงนั้น ธนกรกล่าวว่าเป็นไปได้ทุกแนวทาง
