วันนี้ (15 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวขอบคุณคะแนนเสียงจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งถือว่าคะแนนเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อสูงที่สุด
ส่วนขณะนี้มีการพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงแนวทางทางการเมืองหลังจากนี้ ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้มีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ตนมองว่าเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลต้องปล่อยให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ในส่วนของพรรคต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งตนเข้ามาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเพราะ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะฉะนั้น หาก พล.อ. ประยุทธ์ว่าอย่างไร ตนเองก็ว่าอย่างนั้น
พร้อมยืนยันสามารถพูดคุยกับคนในพรรคได้ทุกคน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เราทำงานร่วมกันมานานพอสมควร ทุกคนในพรรคเป็นคนให้กำลังใจ พล.อ. ประยุทธ์ ดังนั้นท่านตัดสินใจอย่างไรก็อยู่ที่ตัวท่าน และยังเห็นใจ พล.อ. ประยุทธ์ที่ 8 ปีไม่เคยได้ไปไหนเลย ไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเลย
ธนกรยังได้กล่าวถึงกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จะยังคงทำหน้าที่ต่อไปในฐานะรัฐบาลรักษาการ โดยจะต้องทำงานให้เต็มที่ โดยจากไทม์ไลน์เหลือระยะเวลาอีก 3 เดือน ช่วงรักษาการก็ทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันไม่ได้รู้สึกเสียใจ การเมืองมีแพ้มีชนะ และต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย และทุกพรรคที่ได้คะแนนความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งจะต้องจับตาว่าแต่ละพรรคจะมีวิธีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร
“ส่วนจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ ผมเองไม่ขอคาดเดา แต่คิดว่านักการเมืองทุกคนมีสปิริตทางการเมือง จึงต้องให้พรรคที่ได้อันดับ 1 เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล หากอันดับที่ 1 ไม่ได้ จะต้องเป็นพรรคอันดับ 2 ที่จะจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผมเองพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อเราอาสามาทำงานอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้” ธนกรกล่าว
ส่วนมีโอกาสไปรวมขั้วกับพรรคที่มีเสียงข้างมากหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่การเมืองเป็นไปได้หลายหน้า เพราะก็รู้จักกับนักการเมืองหลายพรรค ซึ่งในสนามการเลือกตั้งก็ว่ากันไปตามเกม แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวยังคงคุ้นเคยกันดี ส่วนจะปิดช่องเลยหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคว่าพอใจในสิ่งที่มีแล้วหรือไม่ แต่ส่วนตัวมีข้อกังวลและให้กำลังใจ พล.อ. ประยุทธ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์จะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ. ประยุทธ์ไม่ได้พูด แต่คิดว่าคงต้องพักแล้วกระมัง เพราะตนคิดว่าท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้ว วันนี้ท่านก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองมานานกว่า 8 ปี ตนเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ก็ทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย ไม่มีเรื่องเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องคอร์รัปชัน เชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์จะอยู่ในใจของคนไทยอีกยาวนาน
“ทั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าพ่ายแพ้แล้วจะเป็นอะไร เพราะการเมืองก็เป็นแบบนี้ เราก็ทำหน้าที่อย่างอื่นในฐานะประชาชนเท่านั้นเอง ในอนาคตหากพรรคการเมืองต้องปรับตัว เพราะการเมืองแบบเก่ามากเกินไปก็ไปยาก จึงต้องผสมผสานเข้าด้วยกันของคนทุกช่วงวัย เพราะวันนี้ ส.ส. ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา แต่วันนี้คนเลือกพรรคก้าวไกล” ธนกรกล่าว
ส่วนหลังจากนี้แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการพูดคุยกันถึงแนวทางการทำงานของพรรคหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า เมื่อคืนมีการพูดคุยกันแล้วและมีการประเมินสถานการณ์ ซึ่งก็คิดว่าทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคุยกันแล้วว่าจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร